วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

{Attack On Titan:Levi x Eren } Kill me - Kiss me.-4:

{Attack On Titan:Levi x Eren } Kill me - Kiss me.-4:
Chapter 4


เสียงบรรเลงเปียโนยังคงดังต่อเนื่องถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นบทเพลงอื่นไปแล้วก็ตาม
วันนี้คุณไม่เข้าบริษัทเหรอครับ เบลทรูทเอ่ยถามในขณะที่ส่งกาแฟให้กับชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับเสียงเปียโนที่ได้ยินอยู่แว่วๆ
สายป่านนี้แล้ว ไม่ดีกว่า รบกวนลางานกับคุณเลขาคนเก่งให้ด้วยก็แล้วกัน วันนี้ฉันจะหยุด เบลทรูทรู้สึกขำกับคำพูดของเจ้านาย เป็นถึงผู้บริหารแท้ๆแต่กลับต้องขออนุญาตลางานกับเลขาเชียวเหรอ ที่พูดมาความหมายแดกดันมากกว่า
ครับ ผมจะจัดการให้ เบลทรูทปลีกตัวออกมาโทรศัพท์ถึงเลขาคนสนิทของเจ้านายตามที่สั่ง
อะไรนะ ไม่เข้าบริษัทเหรอ เสียงปลายสายดังทะลุแสบแก้วหูเสียจนเบลทรูทต้องยื่นโทรศัพท์ออกห่าง
กะแล้วเชียวว่าต้องโวยวาย........เบลทรูทอมยิ้ม
ครับ วันนี้คุณรีไวจะหยุด
แล้วเอกสารที่กองเต็มโต๊ะนี่จะว่าไง เขาจะไม่รับผิดชอบหน่อยเหรอ
คุณรีไวบอกว่าให้คุณเลขาคนเก่งจัดการไปได้เลยครับ ยังไงคงต้องขอรบกวนคุณนานาบะด้วยนะครับ
เขาประชดฉันล่ะสิ......เออๆ รู้แล้วน่า คนขี้โวยวายเริ่มเบาเสียงลง นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคำว่า คุณเลขาคนเก่ง ค้ำคออยู่ล่ะก็นะ จะโวยให้บ้านแตกเลยเจ้านายจอมอู้เอ้ย.......
รบกวนด้วยนะครับ คุณนานาบะ
เบลทรูทวางสายไปแล้วนานาบะมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสัญญาณไปแล้วบ่นเบาๆ
เจ้าโย่งนี่ก็อีกคน เจอหน้าทีไรก็เอาแต่ยิ้ม....ไม่รู้ว่าไอ้หน้ายิ้มๆแบบนั้นน่ะคิดอะไรอยู่กันแน่.....โอ๊ย!!! อีกแล้ว โยนงานมาให้ฉันอีกแล้ว อะไรๆก็นานาบะ นานาบะ อยากรู้จริงถ้าขี้ไม่ออก เยี่ยวไม่ออกต้องเรียกฉันไปจัดการให้มั้ยเนี่ยชายหนุ่มผมทองวาวายลั่นขณะที่มองกองเอกสารบนโต๊ะแล้วถอนหายใจ
“อย่าให้เสร็จงานนะเว่ย!!! จะลาพักสักครึ่งเดือน ดูสิ ไม่มีนานาบะคนนี้ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องมันจะทำหน้ายังไง!!!
 “คงกำลังบ่นอยู่คนเดียวแน่ๆ เบลทรูทวางโทรศัพท์ในมือแล้วยิ้มขำ
ในจังหวะนั้นเอง การ์ดคนหนึ่งที่ดูท่าทางตื่นๆเดินเข้ามารายงาน
มีอะไร
มีตำรวจมาขอพบคุณรีไวครับ
เมื่อเบลทรูทเดินออกมาหน้าบ้านก็พบกับนายตำรวจสามนายยืนรออยู่ หนึ่งในนั้นเขาพอจะรู้จักเพราะเห็นเคยออกข่าวบ่อยครั้ง
สวัสดีครับผู้กองสมิธ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรให้ตระกูลแอคเคอร์แมนรับใช้หรือครับ
ผมมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากคุณรีไวสักหน่อยครับ เกี่ยวกับคดีฆ่าล้างงานประมูล ไม่ทราบว่าคุณรีไวพอจะมีเวลาให้ผมบ้างหรือเปล่า
ตอนนี้คุณรีไวติดธุระอยู่ครับ คงไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลสักเท่าไหร่ เบลทรูทยิ้มรับ
ผมขอเวลาไม่นาน รบกวนช่วยเรียนคุณรีไวให้ด้วย
เอลวินยังคงต่อรองอย่างใจเย็น ถึงอย่างไรเขาก็ต้องคุยกับ รีไว แอคเคอร์แมนให้ได้ ด้านฝ่ายเบลทรูทเองก็ยังตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเช่นเดิม
ไม่สะดวกจริงๆครับ.....ต้องขออภัยแทนคุณรีไวด้วย
ไม่เป็นไรเบลทรูท ธุระของฉันเสร็จแล้ว ผู้กองสมิธอุตส่าห์มาถึงที่นี่ อย่าให้พวกคุณตำรวจต้องมาเสียเที่ยวเปล่าๆเลย ช่วยนำคุณตำรวจไปรับรองที่ริมสระว่ายน้ำของเราด้วย....เดี๋ยวฉันตามไป
ครับ
เลทรูทรับคำและเดินนำเอลวิน โคนี่และซาช่า ไปยังสระว่ายน้ำด้านข้างคฤหาสน์ ท่ามกลางการจับตามองของการ์ดรักษาความปลอดภัย ชาชั้นดีพร้อมขนมหวานถูกยกมาเสิร์ฟในทันที
กรุณารอสักครู่นะครับ
เบลทรูทที่ยืนรับรองอยู่ใกล้ๆเอ่ยขึ้น โคนี่ที่ดูจะสนใจกับบ้านหลังนี้เป็นพิเศษลุกเดินไปดูรอบๆพลางโวยวายเสียงดังเป็นระยะ
แน่ใจนะว่านี่บ้านคนจริงๆ
อย่าเสียมารยาทโคนี่ เอลวินปรามเสียงเข้ม
เนื้อที่ของคฤหาสน์ จริงๆแล้วรวมไปถึงสนามขี่ม้าที่ด้านหลังด้วยนะครับ ถ้าสนใจจะแวะมาทักทายบ้างก็ได้”เบลทรูทตอบด้วยรอยยิ้ม โคนี่ผิวปากวิ้ว
ทำไมฉันไม่เกิดมารวยแบบนี้บ้างนะ จะได้ไม่ต้องมาปากกัดตีนถีบแบบนี้.....อ๊า....ผู้กอง มีคนเล่นเปียโนอยู่ตรงนี้ด้วย” โคนี่แนบหน้าส่องผ่านกระจกหน้าต่างบานยาวห้องที่เอเลนกำลังเพลิดเพลินกับของเล่นชิ้นใหม่อยู่ เอลวินนึกอยากกัดลิ้นตัวเองขึ้นมา
คิดผิดจริงๆที่พามันมาด้วย
ซาช่าลุกไปจิกหูเพื่อนกลับมานั่งพร้อมเขกกะโหลกให้อีกหนึ่งที
ผู้กองบอกว่าอย่าเสียมารยาท นายเข้าใจคำว่ามารยาทมั้ยโคนี่
ฉันก็แค่ส่องดูเฉยๆ นั่งถกเถียงกันอยู่สักพัก เจ้าของบ้านก็ออกมา
ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา นับว่าเป็นโชคดีของคุณจริงๆที่วันนี้ผมอยู่บ้าน ไม่อย่างนั้นผู้กองคงมาเสียเวลาเปล่าแน่ ถ้ายังไงคราวหน้าถ้าจะมาเยี่ยมเยียนกันอีกรบกวนแจ้งล่วงหน้าสักนิดก็ดีนะครับ ผมจะได้เตรียมการต้อนรับไว้รอรีไวพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มแต่เอลวินกลับรู้สึกหน้าชา เพราะเหมือนกับกำลังถูกด่าว่าไม่มีมารยาทอยู่กลายๆที่มาบ้านคนอื่นแต่กลับไม่แจ้งให้เจ้าของบ้านทราบล่วงหน้า
บังเอิญว่ามันเป็นเรื่องด่วนจริงๆ ผมลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ต้องขอโทษที่รบกวนคุณแล้ว
เอาไว้โอกาสหน้า ผู้กองแจ้งเบลทรูทไว้ก่อนก็ได้นะครับ ว่าแต่ว่าธุระที่ผู้กองอยากจะพูดกับผมคือเรื่องอะไรกัน
ถ้าคุณถามผมตรงๆแบบนี้ผมก็ไม่ขออ้อมค้อม เราตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากสถานที่จัดงานประมูลใต้ดินพบว่า กลุ่มคนสุดท้ายที่เข้าไปที่นั่นก่อนที่ทางตำรวจจะมาถึงคือคุณ....ไม่ทราบว่าคุณรีไวไปทำอะไรที่นั่นครับ
ผมไปที่งานนั่นเพราะได้ยินมาว่างานประมูลนั้นรวบรวมสินค้าหายากเอาไว้เยอะ ผมก็เลยคิดว่า บางที อาจจะพบของที่เคยถูกชิงไปก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ แต่นึกไม่ถึงว่าตอนที่เข้าไปเหยียบที่นั่นมันจะกลายสภาพเป็นลานประหารไปเสียแล้ว ซาช่าบันทึกทุกคำให้การอย่างคล่องแคล่วในขณะที่โคนี่กำลังเสียบหูฟังเล่นแท็บเล็ทในมืออย่างเมามัน
คุณไปที่นั่นเพื่อตามหาของที่ถูกขโมยไป........ก็ในเมื่อมันสำคัญขนาดนั้นทำไมคุณไม่แจ้งตำรวจให้ทางเราจัดการให้ล่ะครับ
มันเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ผมไม่อยากรื้อฟื้นหรอกครับ ที่ไปก็แค่ลองดูเฉยๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้กลับมาจริงๆหรอกครับ.....แต่ถ้าบังเอิญเจอก็ถือว่าโชคดีไป
คุณพอจะบอกเราได้มั้ยครับ.....ของที่คุณตามหาอยู่คืออะไร
ถามแบบนี้ แปลว่าผมมีสิทธิ์ที่จะตอบหรือไม่ก็ได้ใช่มั้ยครับ....ถ้าเช่นนั้นผมขอไม่ตอบคำถามนี้ก็แล้วกัน เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว รีไวตอบยิ้มๆในขณะที่โทรศัพท์มือถือของเอลวินดังขึ้นพอดี
ขอตัวสักครู่ครับ ผู้กองหนุ่มขอปลีกตัวออกไปรับโทรศัพท์สายตรงจากที่ทำงาน
สแกนหน้าเสร็จแล้วเหรอ.......ดี.......ฉันกำลังจะกลับอยู่พอดี พอวางสายก็หันไปปั้นหน้ายิ้มให้เจ้าของบ้านอีกครั้ง
รบกวนเวลาคุณมากแล้ว ผมคงต้องขอตัว.....ต้องขอบคุณมากที่สละเวลาพูดคุยกัน
ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ คดีนี้ค่อนข้างเป็นที่สนใจ ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ผมก็ยินดีให้ความร่วมมือกับทางตำรวจอย่างเต็มที่
ขอบคุณครับ
จับมือบอกลากันเบาๆ เอลวินเดินกลับออกไปในขณะที่ซาช่าลากคอโคนี่ที่กำลังหมกมุ่นกับแท็บเล็ทตามหลังไปติดๆ เบลทรูทเดินออกมาส่งแขกด้วย
คราวหน้า แจ้งผ่านผมก่อนก็ได้นะครับ จะได้นัดคุณรีไวล่วงหน้าให้
เบลทรูทเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นนามบัตรของตนให้เอลวิน ร่างสูงรับนามบัตรไว้ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกรถไปสุดแรงพลางพึมพำไม่หยุด
ไม่ง่ายเลย.........ไม่ง่ายจริงๆ.........คนๆนี้ ไม่ใช่ว่าจะเล่นด้วยได้ง่ายๆ ได้ความว่ายังไงบ้าง โคนี่ ชายหนุ่มที่นั่งข้างคนขับรายงานข้อมูลที่เพิ่งได้มาจากแท็บเล็ทคร่าวๆ
ทั้งน้ำเสียง สีหน้าท่าทาง อัตราการเต้นของหัวใจ อยู่ในระดับปกติไม่มีพิรุธส่อให้เห็นถึงการโกหกเลยครับ
แต่ถึงจะไม่ได้โกหก ก็เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องปิดบังอยู่นะคะ แต่อย่างน้อยวันนี้เราก็รู้จุดประสงค์ที่เขาไปที่งานประมูลนั่นแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าของที่ว่านั่นคืออะไรก็เถอะ แต่ดูแล้วท่าทางจะเป็นของที่ไม่ค่อยสะอาดนัก  ซาช่าเอ่ยขึ้นขณะที่เก็บสมุดบันทึกให้ปากคำเข้ากระเป๋า
มันก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เอลวินเลี้ยวหักศอกเสียจนโคนี่หน้ากระแทกกับกระจกหน้าต่างรถ
กลับไปดูหน้ามือสังหารแล้วค่อยว่ากันอีกที

ภาพที่ถูกสแกนใบหน้าจนชัดเจนถูกขยายใหญ่ขึ้นเต็มจอ เป็นภาพของชายหนุ่มใบหน้าคมคายแววตาเหี้ยมเกรียม โคนี่ส่งเอกสารในมือยื่นให้เอลวิน
แจน กิลชูไตน์ อัจฉริยะระดับหัวกะทิ จบปริญญาตรีตั้งแต่อายุสิบแปด ใช้เวลาเรียนโทด้วยเวลาเพียงหนึ่งปีครึ่ง นอกจากทักษะทางสมองเป็นเลิศยังมีทักษะทางกายชั้นยอด เขาถูกทาบทามตัวเข้าทำงานในกองทัพสังกัดหน่วยจู่โจมพิเศษ แต่ทำเพียงแค่สามปีก็ถอนตัวออกไป ไม่มีใครรู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
คนของหน่วยจู่โจมพิเศษเหรอ......ฝีมือแบบนั้น ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่ เอลวินมองภาพสแกนในมือเต็มๆ
แล้วตุ๊กตาล่ะ......ได้เรื่องว่ายังไง โคนี่คลิ๊กเปิดภาพเสี้ยวหน้าเล็กๆของหนุ่มร่างบางที่จับได้จากกล้องวงจรปิดขึ้นมา
รายละเอียดน้อยมากจนโปรแกรมสแกนใบหน้าไม่อาจแมตช์กับใบหน้าคนจริงๆได้ครับ เอลวินกดปริ๊นท์รูปมาเก็บไว้กับตัว
ฉันจะไปคุยกับท่านสารวัตรสักหน่อย  ออกหมายจับให้คนของเราตามจับตัวแจน กิลชูไตน์ได้เลย ถ้าได้ตัวเขา ก็ต้องเจอตุ๊กตาด้วยแน่ๆ
รับทราบ!!!!”


นึกไม่ถึงว่าผ่านมาตั้งครึ่งค่อนวันแล้วเอเลนจะยังไม่ยอมละมือจากเปียโน รีไวต้องเข้าไปลากเอาตัวคนที่กำลังเห่อของเล่นชิ้นใหม่ออกมาจากห้องดนตรี สีหน้าท่าทางที่แลดูหดหู่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจอ่อน
กินข้าวก่อนแล้วจะให้เล่นต่อ
อยากฟังอีกมั้ย.....เจ้านาย เอเลนเอ่ยถามเบาๆ
แล้วอยากเล่นมั้ยล่ะ หนุ่มร่างบางพยักหน้ารับ
ถ้าเจ้านายอยากฟัง ผมก็อยากเล่นอีก รีไวมองสบตาร่างบางตรงๆ เอ่ยถามชัดถ้อยชัดคำ
ฉันถามเอเลนว่าอยากเล่นอีกมั้ย เอาความรู้สึกของตัวเองตรงๆ ไม่ต้องทำเพื่อเอาใจใคร ตอบฉันมาสิ ว่าอยากจะเล่นอีกมั้ย
ผม.......... อยากเล่น รีไวยิ้มรับคำตอบของร่างบางด้วยความพอใจ
เพื่อเจ้านาย..........เสียงหวานเอ่ยสำทับ อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนตกลงมาจากที่สูง รีไวโอบเอวบางไว้แล้วเดินเข้าห้องอาหารไปด้วยกันชายหนุ่มบ่นกับตนเองเบาๆ
เอาเถอะ.....แค่ยอมรับว่าอยากเล่นเองก็น่าดีใจแค่ไหนแล้ว

เอเลนตั้งหน้าตั้งตากินอาหารที่รีไวตักให้เสียเต็มจานในขณะที่มีรายงานข่าวขึ้น
สำหรับรายงานความคืบหน้าของคดีฆ่าล้างงานประมูล ตอนนี้ทางตำรวจก็ได้เบาะแสตัวผู้ต้องหาแล้วค่ะ ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูง อายุราวๆสามสิบปีชื่อว่า แจน กิลชูไตน์ ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจได้ออกหมายจับเพื่อตามจับตัวผู้ต้องหาแล้วค่ะ
ภาพแจนที่ปรากฏผ่านจอโทรทัศน์ทำให้เอเลนวางช้อนลง ร่างบางลุกเดินไปนั่งแหมะหน้าจอ มือบางลูบไล้ภาพสแกนใบหน้าของชายหนุ่มพลางพึมพำเบาๆ
แจน........
ทำงานเร็วใช้ได้นี่.....เอลวิน สมิธ รีไวดูข่าวพร้อมกับจิบไวน์ในแก้วไปด้วย
ดีที่คุณเตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้วนะครับ เบลทรูทที่ยืนอยู่ข้างๆกระซิบเบาๆ รีไวยิ้มเย็น
อยากจะรู้จริงๆว่าพวกตำรวจจะพลิกแผ่นดินหาแจน กิลชูไตน์ได้ยังไง ถ้าหากว่าคนๆนั้น.....ไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว

คุณคะ.....ระวังค่ะ ออกมาเดินแบบนี้ เกิดหกล้มไปอาการจะทรุดหนักลงกว่าเดิมอีกนะคะ พยาบาลรีบวิ่งมาประคอง เมื่อเห็นชายหนุ่มที่พันผ้าพันแผลทั้งตัวเดินโซซัดโซเซจวนเจียนจะล้ม แจนโบกมือให้เพื่อจะบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรพร้อมกับดูรายงานข่าวไปด้วย.........
ไม่อยากเชื่อว่าพวกตำรวจจะรู้ตัวเขาแล้ว.........น่าเจ็บใจชะมัด ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่ผู้ชายบ้าอำนาจคนนั้นคาดการณ์ไว้จริงๆ .........
เขายังจำสิ่งที่เบลทรูทพูดกับเขาในคอกม้าวันนั้นได้ดี

ผมจะให้คนพาคุณไปโรงพยาบาล รีบหาย...........แล้วคุณจะได้กลับมาอยู่กับคุณเอเลนนะครับ แจนมองใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนโยนที่แฝงด้วยคมมีดของเบลทรูท

คนพวกนี้จะไว้ใจได้แค่ไหน มีจุดประสงค์อะไรที่จะต้องกักตัวคุณชายกับเราเอาไว้ที่นี่

แต่มีข้อแม้นะครับ เบลทรูทเอ่ยต่อในขณะที่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
หากตำรวจทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดขึ้นมาพวกเขาจะต้องได้เบาะแสที่จะสาวมาถึงตัวคุณได้อย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้ทางตำรวจเข้าถึงตัวคุณและคุณเอเลนได้ คุณรีไวต้องการให้คุณเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าใหม่ครับ
ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น !!!!”
เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณทั้งสองไงล่ะครับ ผมรู้ดีว่าสำหรับคุณแล้วหากจะเกิดอะไรขึ้น คุณก็คงไม่แคร์ แต่กับคุณเอเลนล่ะครับ คุณคิดว่าพวกเขาจะจัดการยังไงกับคนสติไม่สมประกอบถ้าหากไม่ใช่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ มัดมือมัดเท้าติดกับเตียงอยู่แบบนั้น วันใดวันหนึ่งอาจจะคุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองหรือตรอมใจตายอยู่ในนั้นเลยก็ได้........คุณว่าแบบนั้นมันดีแล้วหรือครับ เบลทรูทอธิบายยืดยาวด้วยรอยยิ้มการค้า ถ้อยคำเสียดแทงหัวใจมันช่างขัดแย้งกับสีหน้าท่าทางที่แสดงออกตอนนี้ราวฟ้ากับเหว
คุณจะยอมปล่อยให้คุณชายของคุณต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลบ้าจริงๆหรือครับ คุณแจน ถ้อยคำของเบลทรูทแทงใจเสียจนแจนเถียงไม่ออก

คุณชายต้องเจ็บปวดเพราะถูกกักขังมาเกินพอแล้ว เขาจะไม่ยอมให้คุณชายต้องสูญเสียอิสรภาพที่เขาอุตส่าห์เสี่ยงตายพาหนีออกมาขนาดนี้อีกแล้ว

ตกลงว่ายังไงครับ....... เบลทรูทรอฟังคำตอบอย่างใจเย็น
จะเอาฉันไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็เชิญ แจนกัดฟันแน่นเบลทรูทยิ้มรับคำตอบนั้น
ดีครับ ตอนนี้ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมแล้ว เพียงแค่ผมส่งตัวคุณไปโรงพยาบาลก็จะได้รับการผ่าตัดทันที นับแต่นี้เป็นต้นไปคุณแค่ทำตามคำสั่งของคุณรีไวก็พอ
พวกแกวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วนี่ จะถามความเห็นฉันทำไม เบลทรูทยิ้มแล้วตอบออกมาขำๆ
คุณรีไวบอกว่า.......เห็นสีหน้าทรมานใจของคุณแล้วมันสะใจดีน่ะครับ
ที่ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อคุณชาย หากคุณชายอยู่ที่นี่แล้วปลอดภัย ต่อให้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีอีกสักเท่าไหร่ ฉันก็ยอม
เชื่อใจพวกเราเถอะครับ ผมรับรองว่าคุณรีไวจะดูแลคุณเอเลนให้เป็นอย่างดี เบลทรูทยิ้มแล้วจ้องมองแจนตรงๆด้วยสายตาจริงจัง
ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าอะไรทำให้คุณต้องปกป้องคุณเอเลนมากมายขนาดนี้
คุณชายต้องพบกับความสูญเสียอยู่ตลอด ตกอยู่ในภาวะจำยอมไม่มีโอกาสแม้แต่จะปกป้องตัวเอง การที่ต้องทนเห็นเขาตรอมตรมเสียขนาดนั้น ฉันกลับทรมานเสียยิ่งกว่า ความรู้สึกในใจของฉัน ถึงพูดไป คนไร้หัวใจแบบพวกแกก็ไม่มีทางเข้าใจ เบลทรูทหน้าตึงขึ้นเล็กน้อยชายหนุ่มหลับตานิ่งเหมือนพยายามสะกดอารมณ์แล้วจึงระบายรอยยิ้มอ่อนโยนอีกครั้ง
นั่นสินะครับ ผมคงไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็รีบหายไวๆนะครับ จะได้กลับมาอยู่กับคุณชายของคุณอีก

ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องมาอยู่ในโรงพยาบาลด้วยสภาพแบบนี้ แต่ในเมื่อไอ้หมอนั่นมันบอกว่าจะลบชื่อแจน กิลชูไตน์ไป จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องมากังวลอีก
แจนเดินกลับห้องผู้ป่วยมือใหญ่กุมเครื่องมือสื่อสารคู่กายเอาไว้แน่น โทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ยังพอช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจเขาเอาไว้ได้ ภาพหน้าจอที่ถ่ายคู่กับคุณชายเมื่อเยาว์วัย รอยยิ้มสดใสที่มักจะประดับอยู่บนใบหน้าน่ารักนั้นอยู่เสมอ รอยยิ้มที่ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว แต่ถึงแม้จะไม่สามารถนำรอยยิ้มของคุณชายกลับมาได้แต่จะไม่ยอมให้คนๆนั้นต้องเสียน้ำตามากไปกว่านี้แล้ว
รอผมนะครับ....คุณชาย......แล้วผมจะกลับไป อยู่ข้างคุณเอง

ตกเย็นรีไวกลับเข้ามานั่งที่ห้องทำงานอีกครั้ง หน้าจอคอมแสดงเตือนว่ามีอีเมลล์เข้าพอกดเปิดขึ้นมาอ่านก็นึกสีหน้าของคนที่เขียนเมลล์ฉบับนี้ออกทันที

เอกสารทั้งหมด ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณตรวจสอบดูอีกทีก็แล้วกัน วันนี้ผมทำงานล่วงเวลามาสามชั่วโมง อย่าลืมโอทีกับโบนัสผมด้วยล่ะเจ้านาย
                                                                                                            ‘นานาบะ

คนอ่านถึงกับหลุดขำ เจ้าหมอนี่มันงกได้ที่จริงๆ แต่ถึงจะงกยังไงก็เถอะนานาบะก็เป็นหนึ่งในจำนวนคนสนิทที่เขาไว้ใจได้ ฝีมือก็ถือว่าเยี่ยม ชายหนุ่มกดดาวน์โหลดไฟล์ที่ถูกแนบมาขึ้นดู ถึงตาจะยังมองดูโน๊ตบุ๊คอยู่ แต่เจ้าตัวก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนแอบเข้ามาในห้องนี้แล้ว
ไม่เล่นแล้วเหรอ เสียงทุ้มเอ่ยทัก เอเลนที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเคลื่อนกายออกมา
ถ้าเบื่อแล้วก็มานี่สิ ร่างบางเคลื่อนกายเข้ามาหา กลิ่นสบู่อ่อนๆที่โชยออกมาจากร่างบางทำให้ชายหนุ่มยิ้ม
อาบน้ำแล้วเหรอเอ่ยทักขณะที่จรดปลายจมูกลงบนขมับเนียน เอเลนพยักหน้ารับ
อาบเอง?
เบลทรูทไม่ได้ช่วยนะผมทำเองหมด มือใหญ่รั้งคนตัวหอมนั่งลงบนตักแล้วสูดกลิ่นหอมกรุ่นเบาๆ
ฉันจะให้รางวัล
จูบนุ่มๆที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม เพียงแค่จูบเบาๆแต่กลับทำให้เอเลนหน้าแดงซ่าน ร่างบางซุกหน้าลงบนซอกคอของชายหนุ่ม จมูกรั้นถูไถไปมาไม่หยุด
อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร
กอดหน่อยรีไวกระชับร่างบางเอาไว้
ก็กอดอยู่นี่ไง
กอดมากกว่านี้อีก เอเลนเอ่ยอย่างออดอ้อน รีไวคว้ามือเรียวที่ล้วงเข้ามาสัมผัสแผงอกกว้างไว้แทบไม่ทัน
จะไวไปไหน………
ฉันทำงานอยู่
ผมจะรอ เอเลนว่าขณะไถลตัวลงไปนั่งกับพื้น ศีรษะเล็กซุกซบอยู่กับท่อนขาของชายหนุ่มราวกับแมวน้อยช่างอ้อน
รู้มั้ย......ฉันดีใจแค่ไหนที่นายรอ เอเลนช้อนตามองรอยยิ้มอ่อนโยนของร่างสูง
ผมทำให้เจ้านายดีใจจริงเหรอ
จริงสิ
...........ผมน่ารักมั้ย คำถามซื่อๆแต่ทำเอาคนตอบถึงกับใบ้กิน
เจ้านาย...........เอเลนน่ารักมั้ย
น่ารักสิ.....น่ารักมาก รีไวยกมือลูบกลุ่มผมนุ่มพร้อมยิ้มให้
น่ารัก......เจ้านายก็รักเอเลนเสียสิ
อุตส่าห์เลี่ยงไปได้ตั้งไกล วกกลับมาเรื่องบนเตียงอีกเสียแล้ว รีไวก้มลงจูบหน้าผากเนียนเบาๆ
ก็รักอยู่นี่ไง.......รักจะแย่อยู่แล้ว
เจ้านายโกหก.....เจ้านายไม่รักผม เอเลนนิ่วหน้า ตัดพ้อเสียงเศร้า
ทำไมถึงพูดว่าฉันโกหก
เจ้านายคนก่อนก็รักเอเลน แต่ไม่เคยทำแบบนี้......เจ้านายคนนี้ไม่รักผมจริงๆ
อย่าเอาฉันไปเทียบกับพวกสารเลวพวกนั้น ความรักที่แท้จริงของนายอยู่ตรงนี้ คือฉันยังไงล่ะ เอเลนซุกหน้าลง รีไวรู้สึกได้ว่าขากางเกงของตนเปียกน้ำอุ่นๆที่มาจากร่างบาง
ร้องไห้ทำไม
เจ้านายไม่ยอมกอดผม เป็นตุ๊กตาต้องถูกกอด ถ้าไม่กอดแปลว่าเจ้านายไม่รัก ถ้าเจ้านายไม่รัก ก็จะถูกโยนทิ้ง คำบอกเล่าของร่างบางทำให้รีไวหัวคิ้วกระตุก เจ้าพวกนั้นมันใส่ความคิดบ้าๆแบบนี้ลงไปให้เอเลนได้ยังไงกัน
ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตแก้มใสเบาๆ ลดตัวลงไปนั่งกับพื้น กอดปลอบตุ๊กตาขี้แยเอาไว้
แค่ได้กอด จูบ มีเอเลนอยู่ใกล้ๆแบบนี้ฉันก็มีความสุขแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองมากมายทำอะไรเพื่อใครๆอีก
กอดผมอีกแน่นๆได้มั้ยเอเลนถามเสียงเบาขณะเอนตัวฝังกายลงบนแผงอกกว้าง รีไวตอบสนองคำอ้อนวอนของร่างบางเป็นอย่างดี เอเลนหลับตานิ่ง..... ความรู้สึกอบอุ่นท่วมท้นถูกส่งผ่านให้กันและกัน ถึงแม้ไม่ต้องถูกกอดอย่างรุนแรงทุกคืนเหมือนที่ผ่านมาเพียงแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคนๆนี้ มันก็มากเกินพอ
กอดแค่นี้......ก็ได้ใช่มั้ย
ครับ
ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทิ้งเอเลน” รีไวกล่าวเสียงเบาขณะรวบมือบางขึ้นมากุมไว้แน่น แล้วก้มลงจุมพิตบนหลังมือขาวเนียนเบาๆ
“จะไม่ยอมปล่อยมือคู่นี้อีกต่อไปแล้ว

เบลทรูทเปิดประตูห้องทำงานแต่กลับพบเพียงแต่ความว่างเปล่า
ไปไหนเสียล่ะ....ที่ห้องนอนก็ไม่อยู่ คุณเอเลนก็หายไปด้วย
ตรงนี้...... เสียงทุ้มขานรับ แต่กลับไม่เห็นตัวตน
ครับ เบลทรูทขานรับพลางเดินเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานก็ยังหารีไวไม่เจอ
ข้างล่างนี่
พอก้มลงไปมองถึงได้เห็นว่าเจ้านายหนุ่มนั่งแหมะอยู่กับพื้นโดยมีแล็ปท็อปวางอยู่ข้างๆ ส่วนเอเลนก็กำลังฝันหวานนอนหนุนตักชายหนุ่มอยู่เงียบๆ
ครับ....นายท่าน ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้หลุดขำออกมาด้วยความเอ็นดู
ช่วยเช็คเอกสารพวกนี้ต่อให้ที ฉันจะกลับห้อง ได้แต่แอบอมยิ้มน้อยๆตอนที่เจ้านายหิ้วร่างคนที่กำลังหลับออกจากห้องติดมือไป
“ได้ครับ” เบลทรูทรับคำขณะที่ขนย้ายอุปกรณ์ประกอบการทำงานทั้งหมดขึ้นจากพื้นมาวางไว้บนโต๊ะดังเดิม จวบจนประตูห้องปิดลงเสียงฝีเท้าแว่วห่างออกไปชายหนุ่มร่างสูงจึงได้หลุดขำพรืดออกมา
ท่าทางอาการหนักทั้งคู่




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น