วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

{Attack On Titan:Levi x Eren } Kill me - Kiss me.-1:

{Attack On Titan:Levi x Eren } Kill me - Kiss me
Chapter 1

สายตาคมกริบกวาดมองทั่วทั้งห้องประชุมที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นงานประมูลสินค้าใต้ดินของสมาคมการค้าตลาดมืด เหล่าของมีค่าที่ถูกนำมาด้วยการปล้นฆ่าแย่งชิงได้ถูกนำเข้ามาร่วมงานเพื่อขายทอดตลาด การประมูลสินค้าเถื่อนของผู้มีอันจะกินในวงการตลาดมืดระดับสูงที่ถูกจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้นนี่นับเป็นโอกาสที่เปิดให้เหล่าคนในวงการมืดได้อวดศักดาประกาศผลานุภาพของเงินตราที่เจ้าตัวถือครอง การประมูลสินค้าหายากที่กินเวลาร่วมสามชั่วโมงดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย สินค้าชิ้นสำคัญที่เหล่าผู้เข้าร่วมงานต่างก็ตั้งตารอได้ถูกลำเลียงขึ้นสู่เวทีประมูล ท่ามกลางความสนใจของทุกคน ของเล่นของพวกมีอันจะกินที่ทุกคนต่างก็ต้องการจะครอบครอง
ตุ๊กตามนุษย์........
แท้จริงแล้วเป้าประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ก็ถูกจัดขึ้นเพื่อการค้ามนุษย์ดีๆนี่เอง ตุ๊กตาชายหญิงหน้าตาหมดจดยืนเผยเรือนร่างเปล่าเปลือยต่อหน้าผู้มาร่วมงานทุกคน ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแต่ไร้ซึ่งรอยยิ้มไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆของหนุ่มสาวเหล่านี้ยิ่งทำให้พวกเขาดูราวกับเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่เปราะบางมากยิ่งขึ้น
ไม่ใช่ไม่อับอายที่ถูกหยามเกียรติ.....ต่างก็รู้สึกชินชา ไม่ว่ากี่ครั้งที่ตกไปอยู่ในกำมือผู้ใดเมื่อถูกกระทำย่ำยีจนหนำใจสุดท้ายชีวิตของพวกเขาก็จะต้องมาจบลงที่เวทีแห่งนี้ ขายเรือนร่างและชีวิตให้แก่เจ้านายคนใหม่วนเวียนเช่นนี้ไปจนกว่าจะถึงวันดับสูญ......นั่นถือเป็นการปลดปล่อยพวกเขาสู่อิสรภาพที่แท้จริง

จะมีอิสระใดเล่าเป็นนิรันดร์เทียมเท่าความตาย..........
แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็จำต้องทนรับความทรมาทรกรรมนี้ต่อไป การปรากฏโฉมของเหล่าตุ๊กตามนุษย์เรียกเสียงฮือฮาและความสนใจแก่ผู้เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี หน่วยตาคมกริบส่องประกายกร้าวด้วยความโกรธเคืองยามเมื่อจับจ้องร่างขาวบางที่ยืนเปลือยกายด้วยใบหน้านิ่งเฉยอยู่บนเวที
“คุณชาย”
มือใหญ่กำแน่นด้วยความเกลียดชัง เกลียดพวกโสมมที่กระทำย่ำยีศักดิ์ศรีเพื่อนมนุษย์ด้วยกันราวกับพวกเขาเหล่านั้นเป็นเพียงสิ่งของ ไร้ความรู้สึกนึกคิด ไร้ชีวิต ไร้จิตใจ
เกลียดตัวเองที่ไม่อาจปกป้องคนสำคัญด้วยมือของตนได้ แม้จะได้อยู่เคียงข้างกาย แต่ก็ไม่อาจปลดเปลื้องความทุกข์ระทมที่บังเกิดกับร่างบางนั้นได้เลย

....................................................................
.............................................
.....................

ร่างขาวบางที่บอบช้ำทอดกายระทดระทวยอยู่บนที่นอนนุ่ม ดวงหน้าขาวใสชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงช้าๆตามจังหวะการหายใจ เนื้อกายเนียนละเอียดถูกปกปิดลวกๆด้วยผ้าห่มผืนบาง
"คุณชายครับ........คุณชาย........คุณชาย"
เสียงร้องเรียกด้วยความเป็นห่วงดังอยู่ใกล้ๆ ราวกับเพิ่งตื่นมาจากฝันร้าย ดวงหน้าขาวใสที่ติดจะซีดเซียวค่อยๆเบี่ยงหน้าไปหาต้นเสียงช้าๆ
"คุณชายเป็นอย่างไรบ้างครับ อดทนไว้ก่อนนะครับ ผมจะเช็ดตัวให้"
เมื่อได้ยินเสียงทุ้มเริ่มเคลื่อนห่างออกไป คนที่สติกำลังลางเลือนจึงเอ่ยขึ้น
"ไม่ อย่าไป อย่าเพิ่งไปไหนนะ" มือบางยึดวงแขนใหญ่เอาไว้แน่น
"ผมไม่เป็นไร ผมทนได้ อีกนิดเดียวเท่านั้น.......อีกไม่นาน เราจะเป็นอิสระกันแล้วนะ" ใบหน้าอ่อนระโหยโรยแรงส่งยิ้มอ่อนล้าออกมา
"เขาบอกว่า......อีกไม่นานเขาจะปล่อยผม เราจะได้ออกไปจากที่นี่กันสักที แค่อดทนอีกไม่นานเท่านั้น เราก็จะเป็นอิสระ" น้ำเสียงแหบแห้งค่อยๆอ่อนแรงลงก่อนจะเงียบไป ร่างสูงกระชับผ้าห่มคลุมกายบางไว้ให้เรียบร้อย พลางทรุดกายนั่งลงข้างเตียงของนายผู้เป็นที่รักอย่างหมดหนทาง
"อีกไม่นานเราจะเป็นอิสระเพราะจะได้ออกไปจากที่แห่งนี้ แต่นั่นก็หมายถึงว่านรกแห่งใหม่กำลังรอเราอยู่ จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน จะต้องอดทนไปถึงเมื่อไหร่ ทำอย่างไรผมถึงจะปลดปล่อยคุณได้สักที"
มือใหญ่ลูบกลุ่มผมนุ่มชื้นเหงื่อช้าๆ เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาราวกับต้องการจะปลอบประโลมหัวใจอันบอบบาง ขับกล่อมให้กับร่างบางได้พบกับฝันอันแสนหวานสักครั้ง
"ผมจะปกป้องคุณ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็จะทำ!!!"

………………………..

สินค้าชิ้นพิเศษนี้ถูกนำมาประมูลโดย ท่านเฟอร์นันโด ซึ่งได้ให้การการันตีมาแล้วว่าสินค้าชิ้นนี้มีดีทั้งรูปลักษณ์และการใช้งาน เสียงบรรยายดังก้องทั่วห้องประชุม ชายหนุ่มร่างบางถูกดันออกมายืนหน้าสุดของแถว ใบหน้าขาวใสเรียบเฉย นัยน์ตาสีเขียวมรกตแลดูหม่นหมองเลื่อนลอยไร้วี่แววของอารมณ์
ไม่ว่าเมื่อไหร่ สุดท้ายแล้วเขาก็มักจะลงเอยด้วยการถูกประมูล ณ สถานที่โสมมแห่งนี้เสมอ ถูกเปลี่ยนผ่านมือคนแล้วคนเล่า
เมื่อไหร่กันนะ ที่ตุ๊กตาตัวนี้จะถึงขีดจำกัดดับสลายไปเสียที……..
คุณชาย.......
ร่างสูงเริ่มขยับเคลื่อนไหวเมื่อเห็นสินค้าประมูลอย่างชัดเจน เรือนร่างสูงโปร่งค่อยๆแทรกกายผ่านกลุ่มคนที่มัวแต่หลงชื่นชมความงามของตุ๊กตาตัวนี้อยู่
บอกได้คำเดียว ตุ๊กตาตัวนี้ใครประมูลได้ไม่มีทางเสียใจแน่นอน
ชายร่างอ้วนประกาศเสียงดังพร้อมรอยยิ้มที่แลดูน่าสะอิดสะเอียน เสียงเสนอราคาประมูลเริ่มดังขึ้น นับว่าเป็นการปั่นราคาประมูลที่ได้ผลดีทีเดียวยิ่งเจ้าของเดิมออกมารับประกันด้วยตนเองแบบนี้ก็ยิ่งส่งผลให้มีผู้หมายปองจะครอบครองตุ๊กตาตัวนี้เพิ่มมากขึ้นราคาประมูลค่อยๆพุ่งทะยานสูงขึ้นไปเรื่อยๆท่ามกลางเสียงอลหม่านเสนอราคาประมูลที่กำลังสับสน ..............ในที่สุดเขาก็สามารถเข้าประชิดตัวชายร่างอ้วนผู้นี้ได้สำเร็จ
นายท่านขอรับ คุณชายของผมมีเรื่องจะเรียน ร่างสูงป้องปากกระซิบให้ได้ยินกับชายร่างอ้วนเพียงแค่สองคน
ตุ๊กตาของฉัน?......มีอะไรรึ
คุณชายของผมฝากเรียนนายท่านว่า.........”

“ไปตายซะไอ้ชาติหมา!!!!”

เสียงปืนกระหน่ำดังขึ้นพร้อมกับเลือดสีแดงสดที่สาดกระจาย ก้อนเนื้อสีขาวอมชมพูที่หลุดกระเด็นออกจากกะโหลกชายร่างอ้วนสาดกระเซ็นเข้าใส่ผู้เข้าร่วมประมูลโดยรอบ เสียงกรีดร้องดังลั่น การ์ดรักษาความปลอดภัยเริ่มค้นหาที่มาของเสียงปืนอย่างว่องไว เหล่าผู้มีอันจะกินทั้งหลายต่างถูกคนของตนกันตัวออกจากที่เกิดเหตุถอยร่นเข้าไปอยู่ในเขตปลอดภัย ร่างสูงไม่รอช้า หลังจากจัดการเป้าหมายเสร็จก็รีบวิ่งฝ่าฝูงชนที่กำลังแตกฮือด้วยความตื่นตระหนกขึ้นไปบนเวทีประมูล
คุณชายครับ......คุณชาย ไปกันเถอะครับ มือใหญ่ออกแรงเขย่าคนที่ยืนนิ่ง ราวกับเพิ่งได้สติ ร่างบางช้อนตามองชายหนุ่มที่กำลังร้องเรียกเขาช้าๆ
ไป.....ไปเหรอ......ไปไหนล่ะ ผมยังไม่มีเจ้าของเลยนะ
ไม่ต้องไปสนใจพวกโรคจิตพวกนั้นอีกแล้วครับคุณชาย รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ผมจะดูแลคุณเอง
แต่ผมเป็นตุ๊กตา ถ้าไม่มีเจ้าของ แล้วตุ๊กตาอย่างผมจะมีความหมายอะไร ดวงตาใสแจ๋วที่ทอดมองมาฉายแววตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ร่างสูงรู้สึกหงุดหงิดจนต้องตะโกนออกมา
คุณไม่ใช่ตุ๊กตา คุณชายคือเจ้านายของผม นายน้อยแห่งตระกูลเยเกอร์!!! ได้ยินมั้ยครับไปกับผม ออกไปจากนรกนี่สักที!!!!”
ไปจากที่นี่......ออกไป.....เราจะกลับบ้านกันใช่มั้ย.....ไปหาคุณพ่อกันใช่มั้ย
ครับเราจะกลับบ้าน ไปหาคุณท่าน แม้คุณท่านจะไม่อยู่แล้วก็เถอะ แต่ได้โปรดคุณชายได้สติสักที สถานที่สกปรกโสมมแบบนี้ไม่ใช่ที่ของคุณ
อย่าอยู่ห่างผมนะครับ คุณชายกล่าวพร้อมกับถอดโค้ทสีเข้มตัวยาวห่อคลุมร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ให้แล้วฉุดเรียวแขนขาวที่มีร่องรอยฟกช้ำดำเขียวออกวิ่งเต็มฝีเท้า ร่างบางออกวิ่งตามแรงฉุดของร่างสูง เขาจำต้องกดนายน้อยลงกับพื้นเมื่อเจอกับกระสุนที่สาดเข้ามา มือใหญ่กดศีรษะเล็กแนบอกพลางโอบกอดเอาไว้
เรากำลังจะกลับบ้าน ผมขอให้คุณชายปิดหู หลับตา นับหนึ่งถึงร้อยแล้วค่อยลืมตาขึ้นนะครับ เมื่อถึงตอนนั้นผมสัญญาเราจะปลอดภัย ชายหนุ่มร่างบางยินยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี หลับตาแน่น อุดหู พลางซุกตัวเข้าหาอกแกร่งที่ปกป้องตนเองเอาไว้
หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า..........
เสียงที่ได้ยินตอนนี้จึงมีเพียงแค่เสียงตนเองที่กำลังนับเลขไปเรื่อยๆ สมาธิทั้งหมดเพ่งอยู่กับเหล่าตัวเลขที่วิ่งผ่านสมองมาแล้วผ่านไปโดยไม่ได้สนใจเสียงปืนที่แผดลั่นดังทั่วห้องประชุม แขนใหญ่โอบกอดร่างบางเอาไว้ มืออีกข้างกระชับปืนไว้มั่น สูดหายใจเข้าลึก แล้วพุ่งตัวออกจากที่กำบัง สาดกระสุนใส่ทุกคนที่ขวางหน้า ในขณะที่ใช้ร่างของตนเป็นโล่กำบังให้แก่ร่างบางในอ้อมกอดไปด้วย

ใครมาขวาง......มันต้องตาย!!!!”

............................................................


เรือนกายกำยำก้าวข้ามผ่านคนที่บาดเจ็บและล้มตายที่กองอยู่บนพื้นช้าๆ รองเท้าหนังชั้นดีเหยียบย่ำลงบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยเลือดโดยไม่ได้มีท่าทีสะอิดสะเอียนแม้แต่น้อย ราวกับว่าตอนนี้เขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านตอนฝนตกใหม่ๆอยู่ก็ไม่ปาน นัยน์ตาคมกริบกวาดมองทั่วห้องประชุมใหญ่ที่มีสภาพเละไม่มีชิ้นดี
ปัง!!!!
เขม่าปืนลอยคลุ้งอยู่เบื้องหน้า ชายชุดดำที่คิดว่าตายไปแล้วกลับหมอบลงบนแทบเท้าเขาอีกครั้ง เมื่อถูกกระสุนปืนทะลวงขมับ
ระวังหน่อยครับ.....สถานที่นี้ยังไม่ปลอดภัยนัก ชายหนุ่มร่างสูงที่ออกจะเกินมาตรฐานของคนทั่วไปเอ่ยขึ้นพร้อมกับเก็บปืนเข้าไปในสูทสีดำ
หึ!!!!”
ชายหน้าคมแค่นเสียงด้วยความสมเพช แล้วเดินเหยียบย่ำผ่านร่างที่เพิ่งจะแน่นิ่งนั้นไป เหล่าผู้ติดตามคอยประกบไปติดๆพลางรับข่าวสารผ่านวิทยุสื่อสารตัวจิ๋วจากเหล่าสมุนไปด้วย
รายงานสถานการณ์โดยรอบครับ พบศพเฟอร์นันโดเสียชีวิตจากการถูกจ่อยิงระยะเผาขนแล้วครับ ข่าวรายงานที่ได้รับผ่านวิทยุตัวจิ๋วถูกส่งต่อให้เจ้านายทันที
 “แล้วตุ๊กตาของฉันล่ะ อยู่ที่ไหน เสียงทุ้มเอ่ยถามเรียบๆ
ได้เบาะแสจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่ามีคนพาตัวออกไปแล้วครับ คาดว่าจะเป็นมือสังหารที่จัดการเฟอร์นันโดครับ

มาช้าไปเหรอ....................

ชายหนุ่มนิ่งไป ใบหน้าคมคายทอดสายตามองคนสนิทด้วยแววตานิ่งเฉย เย็นชา
ต่อให้พลิกทั้งฟ้า ก็ต้องหาตุ๊กตาของฉันให้เจอ

.........................................................
...................................
..............

เก้าสิบแปด........เก้าสิบเก้า......หนึ่งร้อย
ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับใบหน้าคุ้นตา โครงหน้าคมคายได้รูปชื้นไปด้วยเหงื่อ เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด มือบางยกเช็ดคราบเลือดที่ติดบนหน้าร่างสูงให้เบาๆ
เราปลอดภัยแล้วใช่มั้ย......
ครับคุณชาย ตอบรับไปพร้อมกับกุมมือเรียวเอาไว้ ไม่อยากให้คนๆนี้แตะต้องคราบเลือดไปมากกว่านี้
กลับบ้านกันใช่มั้ย
ครับ....กลับบ้าน ร่างบางยิ้มรับคำตอบนั้น นับเป็นรอยยิ้มแรกที่เขาได้รับในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา คุณชายกำลังดีใจที่จะได้กลับบ้าน แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ ในเมื่อบ้านหลังนั้นมันไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
มือบางจับจูงร่างสูงเดินออกจากตรอกมืดๆนี้ช้าๆ เรือนกายบอบบางยังคงความขาวสะอาดเอี่ยมอ่องไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ในขณะที่ตัวเขากลับเต็มไปด้วยร่องรอยของบาดแผล และกลิ่นคาวเลือด ช่างแตกต่างกันราวกับเทวาและซาตานเสียเหลือเกิน
เดี๋ยวครับคุณชาย.....รอก่อน
หืม ร่างสูงยับยั้งคนที่กำลังจะก้าวออกไปหาความสับสนอลหม่านภายนอกตรอกนี้เอาไว้
รออีกสักเดี๋ยว....พรุ่งนี้ผมจะพาคุณกลับบ้าน ถ้าออกไปตอนนี้เราอาจจะถูกเจอตัวเอาได้ง่ายๆนะครับ
อืม......ก็ได้ เชื่อฟังทุกคำพูดของร่างสูงเป็นอย่างดี
เจ็บเหรอ? มือบางลูบไล้แขนที่มีเลือดซึมออกมาเบาๆ
ไม่ครับ ไม่เจ็บเลยสักนิด แผลแค่นี้เล็กน้อย มันเทียบกับความเจ็บปวดที่คุณชายต้องทนแบกรับไม่ได้หรอกครับ ต่อให้ต้องเสียเลือดจนหมดตัว ไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจ ผมก็จะไม่ยอมให้คุณชายตกอยู่ในเงื้อมมือคนเลวพวกนั้นอีก
ไม่เป็นไรนะ......ไม่เจ็บนะ.....ไม่เจ็บอีก ว่าพลางเป่าลมลงบนแผลร่างสูงเบาๆพลางกอดไว้แน่น แขนใหญ่โอบกอดร่างบางเอาไว้ไม่อยากให้คนๆนี้หลุดลอยไปจากตนอีก
เพื่อคุณชาย คุณคนเดียวเท่านั้น ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายคุณอีก จะไม่ยอมให้คุณต้องตกอยู่ใต้เงื้อมมือคนใจทรามพวกนั้นอีก เพียงแค่คุณคนเดียวเท่านั้นที่ผมจะไม่ยกให้ใคร

..............................................................
...................................
.............
รถยนต์ติดฟิล์มดำวิ่งพล่านไปทั่วทั้งเมืองหลวงตลอดคืน ชายหนุ่มหน้าคมทอดกายนั่งพิงเบาะหลังด้วยท่วงท่าสบายๆในขณะที่มือขวาคนสนิทยังคงง่วนอยู่กับการรับข่าวสารจากสายที่ส่งออกไปไม่หยุด
อะไรนะ.....ยังไม่เจอ แล้วแกจะรายงานฉันเพื่อ.........ถ้ายังไม่ได้ข่าวอย่าสะเออะติดต่อมาให้เสียเวลา หนุ่มร่างสูงถอนหายใจด้วยความหัวเสีย พลางส่ายหน้าด้วยความหงุดหงิดเมื่อได้รับสัญญาณติดต่อเข้ามา
ว่ายังไง.....กระแทกเสียงตอบกลับไปด้วยความหงุดหงิด แต่ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะเป็นข่าวที่เขารอคอยจะฟังมาแทบทั้งคืน
สายของเรารายงานมาว่า พบตัวตุ๊กตาของคุณแล้วครับ ชายหนุ่มยิ้มรับข่าวดีนี้ แล้วออกคำสั่งเสียงเฉียบ
ถ้าผิดตัว บอกพวกมันให้เรียงคิวรอกินลูกปืนฉันได้เลย


ร่างสูงที่อ่อนล้าลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อพบว่าร่างบางยังคงหลับใหลอิงแอบอยู่กับอกของตนจึงเบาใจลง มือใหญ่อังแก้มใสเบาๆ
อากาศยามเช้ามืดช่างเย็นเหลือเกิน......

กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นหวังให้คนในอ้อมกอดได้อบอุ่น
ตื่นแล้วเหรอ น้ำเสียงงัวเงียดังมาเบาๆ
ขอโทษครับ ผมทำให้คุณชายตื่น
ไม่เป็นไร ผมอยากกลับบ้าน

บ้านเหรอ......จะไปหาจากที่ไหนได้กัน

ครับ....กลับบ้านกัน แต่ยังไงก็ต้องพาไปหลบในที่ปลอดภัยก่อนดีที่สุด.........
ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากตรอกมืดๆแห่งนี้ ทางออกเล็กๆกลับถูกปิดกั้นไว้ด้วยรถสีดำคันใหญ่ ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งกรูเข้ามาล้อมคนทั้งคู่เอาไว้
ชิท!!!!อุตส่าห์คิดว่ารอดแล้วแท้ๆ สบถออกมาพลางกวาดตามองชายชุดดำที่ติดอาวุธครบมือ
เสียเวลาตั้งนาน.....ตุ๊กตาของฉันมาตกระกำลำบากอยู่นี่เอง ชายหนุ่มหน้าคมเดินแหวกชายชุดดำเข้ามาในวงล้อม
แกเป็นใคร?คิดว่าเป็นคนของเจ้าเฟอร์นันโดตามมาล้างแค้นให้นายมันเสียอีก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เสียแล้ว
ถามโง่ๆ เจ้าชีวิตของคุณชายแกไงล่ะ แจน กิลชูไตน์ เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันที่ถูกส่งออกมา แรงถีบจากชายหนุ่มผู้นี้ที่ปะทะเข้ากับยอดอดทำให้แจนถึงกับจุกลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้น
แจน!!! กลับบ้าน ผมจะกลับบ้าน
คุณชาย!!!....... พอพยายามจะเข้าใกล้ ก็เป็นอันต้องเกิดความรู้สึกเจ็บแปลบที่ขาขึ้น คนพวกนี้ยิงเขาโดยไม่มีการเตือนแม้แต่น้อย เลือดสีสดไหลเป็นทางราวกับท่อประปารั่ว
อย่าทำเขา......ผมจะกลับบ้าน กลับบ้านกับแจน ตุ๊กตาตัวน้อยเริ่มส่งเสียงโวยวาย
หุบปาก!!!” ชายหนุ่มตวาดลั่น
เป็นตุ๊กตาไม่ใช่หรือไง ต้องเชื่อฟังเจ้านายไม่ใช่เหรอ ตอนนี้นายเป็นของฉันแล้วยังไงล่ะ มือใหญ่บีบปลายคางเรียวไว้แน่นขณะจ้องสบตากับดวงตาคู่สวยที่กำลังฉายแววตื่นตระหนก ร่างบางตกตะลึงในขณะที่สมองกำลังประมวลผลคำพูดของชายคนนี้อยู่
คุณเป็นเจ้านาย.......ผมเป็นตุ๊กตา.......เป็นตุ๊กตาของคุณ ร่างบางพึมพำออกมาราวกับตนเองเป็นตุ๊กตาที่ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้จริงๆ
เลิกโวยวาย แล้วตามฉันมาร่างบางยินยอมเดินตามชายผู้นั้นออกไปแต่โดยดี.......
แจนมองตามหนุ่มร่างบางที่เดินห่างออกไปช้าๆ คุณชายของเขากำลังถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตา
คุณชาย คุณชายครับ อย่าไป.....คุณชาย!!!!”
แจนตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน แต่คราวนี้กลับมีปากกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากของเขาอยู่ ชายร่างสูงหนึ่งในพวกชุดดำพูดกับเขาด้วยสีหน้าอ่อนโยน
ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่ขอลุกขึ้นมาอีก
แจนกัดฟันแน่นตะโกนเสียงดัง
แกไม่เข้าใจ......ไม่มีวันเข้าใจ คืนคุณชายของฉันมา!!!!”
ยอมรับชะตากรรมของคุณเถอะ คุณแพ้แล้ว
ถ้าจะพาเขาไปจากฉัน......ฆ่าฉันเลยเซ่!!!!”
ปัง!!!
เสียงปืนดังลั่นมาจากตรอกมืดที่เพิ่งเดินจากมา ทำให้หนุ่มร่างบางชะงักงัน
เอ๋.......แจน?.... เสียงหวานพึมพำเบาๆ กะจะหันกลับไปมองยังเส้นทางที่จากมาแต่ก็ถูกทักท้วงไว้เสียก่อน
รออะไรอยู่ล่ะ ขึ้นมาสิ ชายหนุ่มหน้าคมที่เข้าไปนั่งรอในรถยื่นมือมาให้แต่ร่างบางก็ยังไม่ยอมขยับเขยื้อน
เป็นตุ๊กตา ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายไม่ใช่หรือไง
ครับ.....ต้องเชื่อฟังร่างบางพยักหน้ารับลอยๆ
อยากกลับบ้านไม่ใช่เหรอ.....มาสิ ฉันจะพากลับบ้าน
มือใหญ่ที่แลดูอบอุ่น เสียงทุ้มที่ฟังดูอ่อนโยน ไม่มีทางที่ตุ๊กตาอย่างเขาจะปฏิเสธความต้องการของเจ้านายได้อยู่แล้ว มือบางเอื้อมไปสัมผัสฝ่ามือใหญ่ก่อนจะถูกกุมเอาไว้แน่น
ครับ......ผมจะกลับบ้าน กับคุณ




1 ความคิดเห็น: