วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

Attack On Titan Fiction : Morals? Pairing : Bertholt x Eren

Attack On Titan Fiction : Morals?
Pairing : Bertholt x Eren

                ฟิคสั้นพิเศษฉลองวันเกิดน้องสาวค่ะ แย้บมาว่าขอเป็นแก๊งทริโอกับเอเลน ตอนแรกพี่ว่าจะปั่นเรื่องยาวให้ แต่......ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ไม่ทันจริงๆค่ะ เรื่องนี้จับคู่ให้ด้วยความติ่งปลื้มพี่เบลเป็นการส่วนตัว >///<

                เสียงฝีเท้าสม่ำเสมอก้าวผ่านระเบียงทางเดินที่ปลอดผู้คนเป็นจังหวะเนิบนาบ เด็กหนุ่มไม่รู้สึกแปลกใจสักเท่าไหร่เพราะรู้ดีว่าเวลานี้ผานชั่วโมงเข้าเรียนมาเนิ่นนานแล้ว เพราะนั้นเขาจึงคร้านจะใส่ใจที่จะต้องรีบร้อน จุดหมายห้องเรียนประจำชั้นอยู่เบื้องหน้า มือบางเลื่อนเปิดประตูบานเลื่อนเข้าไปอย่างถือวิสาสะ อาจารย์ประจำวิชาที่กำลังบรรยายบทเรียนเหลือบตาหันมามองชั่วครู่ก่อนจะทำการสอนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก็แค่เหตุการณ์ปกติเหมือนอย่างที่เคยเป็นเช่นทุกวัน........
เด็กหนุ่มเดินผ่านหน้าชั้นเรียนเข้าไปนั่งประจำที่ เจ้าตัวไม่ใส่ใจจะหยิบหนังสือเรียนประจำวิชาขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ แค่นั่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้เวลาหมดไปอีกวัน
สัมผัสอุ่นๆที่ท้ายทอยทำให้เจ้าตัวสะดุ้ง........
นัยน์ตากลมโตตวัดฉับหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังอย่างเอาเรื่อง
“วันนี้ก็ไปมีเรื่องมาอีกแล้วสินะ ถ้าไม่เจ็บตัวสักวันนี่ชีวิตจะไม่มีความสุขรึไง” น้ำเสียงกวนประสาทช่างขัดกับใบหน้าหวานที่เจ้าตัวมักจะสวมหน้ากากแห่งรอยยิ้มไว้ตลอดเวลาเสียจริงๆ”
“.........” เขาเลือกที่จะไม่สนใจและไม่ยอมตอบโต้
“ร่างกายที่พี่ชายหวงแหน ปล่อยให้บอบช้ำบ่อยๆแบบนี้ เขาจะเสียใจเอาได้ไม่ใช่รึไง”
ถ้อยคำประโยคนี้เรียกความสนใจของเด็กหนุ่มได้อีกครั้ง เขาหันกลับไปเผชิญหน้ากับตัวการที่กำลังก่อกวนอารมณ์ของเขาตรงๆ เด็กหนุ่มช่างจ้อเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“ที่ฉันพูดน่ะ แทงใจดำล่ะสิ......เอเลน”

หนึ่งวันแห่งความน่าเบื่อหน่ายผ่านพ้นไป
เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปในบ้านน้ำเสียงที่คุ้นเคยก็เอ่ยทักมาทันที
“กลับมาแล้วเหรอเอ......... เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มร่างสูงที่หอบตะกร้าผ้าใบโตเอ่ยทักทันทีที่เห็นสภาพของน้องชายเดินเข้ามาในบ้าน ตะกร้าผ้าถูกวางทิ้งไว้บนพื้นขณะที่เจ้าตัวก็เข้ามาลากคอคนชอบหาเรื่องใส่ตัวขึ้นไปบนห้อง
“ไปทะเลาะกับใครมาทำไมถึงได้แผลกลับบ้านติดตัวทุกวันแบบนี้ แม่เห็นก็ต้องโดนดุอีกแน่ๆ” คนบ่นก็ได้แต่พร่ำไปแต่เจ้าตัวต้นเรื่องกลับเอาแต่เงียบเฉย
“ถอดเสื้อผ้าออกมาให้พี่ พี่จะเอาไปซักให้ ไปอาบน้ำซะ เดี๋ยวค่อยมาทำแผล”
ใบหน้างามตีมึนอยู่ชั่วครู่ทำเป็นไม่ได้ยิน
“เอเลน!!! พี่บอกให้เราถอด.......” ยังไม่ทันได้พูดให้จบประโยค เสื้อผ้าชุดเก่าก็ถูกปาใส่หน้าพร้อมด้วยเสียงประตูห้องน้ำปิดดังปัง!!!! เบลทรูทได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของน้องชาย
ไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้าเด็กนี่คิดอะไรอยู่กันแน่........
“ก้มหน้าทำไม หันหน้ามาให้พี่ดูแผลดีๆสิ” พี่ชายร่างสูงเอ่ยพร้อมกับเชยคางมนขึ้นดู
ร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้ายังปรากฏให้เห็นเด่นชัด ผ้าห่อน้ำแข็งถูกวางประคบลงบนรอยช้ำม่วงแดงเบาๆ มือใหญ่ค่อยๆปฐมพยาบาลให้กับน้องชายอย่างเบามือในขณะที่แผลเปิดที่มีเลือดออกก็ใส่น้ำยาฆ่าเชื้อและพาสเตอร์ปิดแผลเป็นการปิดท้าย ตามแขนขาก็ยังปรากฏร่องรอยบาดแผลให้เห็น
“มีเรื่องเจ็บตัวไม่เว้นแต่ละวัน พี่ถามจริงๆว่าไปโรงเรียนเพื่ออะไรกันแน่”
นอกจากจะไม่ตอบคำถามเอเลนยังเอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเองอย่างเดียว
“..........”
“ที่พูดอยู่ทุกวันนี่ก็ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อเราเองทั้งนั้น พี่เป็นห่วงเข้าใจรึเปล่า” ร่างสูงลุกขึ้นจากที่นอนกล่าวขณะเก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาลลงกล่อง
“เสร็จแล้วก็ตามลงไปล่ะ พี่ซื้อของชอบเรามาเผื่อ กินรองท้องไปก่อนเดี๋ยวทำข้าวเย็นให้กิน” มือใหญ่ลูบศีรษะน้องชายเบาๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ร่างบางได้แต่กัดริมฝีปากแน่น..........ให้ตายยังไงก็ไม่มีวันพูดเด็ดขาด!!!


“ท่าทางดีใจนะ แผลพวกนั้นน่ะ คุณพี่ชายใจดีทำให้ล่ะสิคค” เด็กหนุ่มร่างบางเอ่ยขึ้นลอยๆขณะที่กัดขนมปังในมือ
“หยุดพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องสักที!!!!!
“อ่า...........” เสียงตวาดที่ตอบกลับมาทำให้เขาอึ้งไปชั่วครู่ นัยน์ตากลมโตทอดมองไปไกลยังสนามกีฬาที่มีกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่จับกลุ่มแข่งขันกันอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงผมสีเข้มที่วิ่งอยู่กลางสนามเตะตาเขาเข้าพอดี
“ถ้าอยากจะเรียกร้องความสนใจจากคุณพี่ชายจริงๆมันก็มีวิธีที่ดีกว่าการเอาตัวไปเสี่ยงเจ็บตัวบ่อยๆแบบนี้ไม่ใช่รึไง”
“ไม่ใช่เรื่องที่นายจะต้องยุ่งเลยนะอาร์มิน”
“มันคุ้มกันแล้วเหรอเอเลน........อา........แต่ก็คงจะคุ้มสินะ ชอบใช่มั้ยล่ะเวลาที่มือใหญ่ๆคู่นั้นสัมผัสตัวน่ะ รู้สึกยังไงบ้างล่ะ รุ่มร้อนตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว อยากถูกสัมผัสให้มากกว่านี้ใช่มั้ยล่ะ” เด็กหนุ่มผมทองกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฉันบอกให้หุบปาก!!!” เมื่อถึงที่สุดแห่งความอดทนเอเลนลุกขึ้นกระชากคอเสื้อเพื่อนตัวเล็กเข้าเต็มแรง นอกจากจะไม่มีท่าทีหวาดกลัว อาร์มินยังเอาแต่หัวเราะไม่หยุด
“ร้อนตัวอีกแล้ว!!!! ดูสินายร้อนตัวอีกแล้ว!!!
ยิ่งถูกหัวเราะเยาะหนักขึ้นเท่าไหร่ อารมณ์เคืองก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น
“ชกฉันเลยสิเอเลน ใช้กำลังเหมือนอย่างทุกทีที่นายชอบทำไง” อาร์มินส่งยิ้มยั่วขณะที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้กระซิบเบาๆ
“คุณพี่ชายจะได้เห็นว่าที่จริงแล้ว น้องชายสุดที่รักเป็นพวกกักขฬะชอบความรุนแรง” เมื่อกล่าวจุ๊บอาร์มินก็ประทับริมฝีปากลงบนพวงแก้มใสของเพื่อนสนิทอย่างจงใจ เอเลนผงะถอยหลังโดยอัตโนมัติแต่อาร์มินกลับตีหน้าซื่อส่งยิ้มตาปิดไปให้แทน
“อ้าว!!! สวัสดีครับคุณพี่ชาย มาหาเอเลนสินะครับ” อาร์มินเอ่ยทักด้วยใบหน้าแช่มชื่น เมื่อเอเลนหันหลังกลับไปมองตามสายตาของเพื่อนก็พบเข้ากับคนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุด เบลทรูทกำลังมองเขาด้วยใบหน้าตื่นตะลึง ร่างบางได้แต่กัดฟันแน่นผลุนผลันวิ่งหนีออกไป
“ทำไมไม่อยู่คุยกับคุณพี่ชายก่อนล่ะ” อาร์มินตะโกนไล่หลังพลางหัวเราะร่วนไม่หยุด
“นายทำอะไรน้องฉัน!!!” ร่างสูงตรงเข้าไปขย้ำเด็กหนุ่มที่เอาแต่หัวเราะไม่หยุดอย่างเอาเรื่อง
“อะไรกันครับ......ผมเปล่าสักหน่อย”
“นายจูบแก้มน้องฉัน..........หรือว่า.........พวกนาย........คบกัน?” ร่างสูงรู้สึกสับสนกับความรู้สึกกังวลในใจอยู่ไม่น้อย
เอเลนมีแฟนแล้ว และน้องชายของเขาก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขาเลยสักครั้ง
“ผมกับเอเลนนี่นะ คบกัน? พี่นี่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย” เสียงหัวเราะยิ่งดังร่วนขึ้นกว่าเดิม เบลทรูทกัดฟันกรอด
“ผมถามจริงๆว่าพี่มีตาเอาไว้ประดับหน้าเท่านั้นหรือครับ ถึงได้มองไม่ออกว่าจริงๆแล้ว หมอนั่นมันมองใครอยู่...............”

ไม่บอก..........ไม่มีวันบอก........จะไม่ยอมให้รู้เด็ดขาด!!!!
เรียวขายาวได้แต่วิ่งเต็มฝีเท้าไปตามท้องถนน ต่อให้ชนใครก็ใครก็ไม่ได้สนใจ
จะให้พี่รู้......ความรู้สึกนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ได้แต่กัดฟันวิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนกระทั่งชนเข้ากับชายร่างใหญ่จนล้มคว่ำกันไปคนละทาง เมื่อตั้งตัวยืนขึ้นได้เอเลนก็ออกวิ่งอีกครั้งแต่แรงยึดจากด้านหลังก็ทำให้เขาไปได้อีกแค่ไม่กี่ก้าว ชายร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้พร้อมกระแทกหมัดเข้าที่ปลายคางเรียวเต็มแรง

“เอเลน!!!!
ประตูห้องนอนถูกกระชากเปิดออกอย่างรุนแรง เมื่อเบทรูทก้าวเข้ามาในห้องก็เจอกับน้องชายที่ซุกตัวคลุมโปงอยู่ในผ้าห่มแอบอยู่มุมห้อง
“เอเลน คุยกันหน่อย พี่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“................”
“เอเลน!!!!
ร่างสูงในตอนนี้ที่อยู่ในภาวะสับสนและร้อนรุ่มไม่อาจทำใจให้นิ่งสงบเหมือนปกติได้ มือใหญ่กระชากผ้าห่มผืนหนาออกจากร่างของน้องชาย บาดแผลฟกช้ำบนใบหน้าร่างกายที่เพิ่มขึ้นกว่าวันก่อนทำให้ชะงัก ความรู้สึกค้างคาในใจพลันถูกกลบไปด้วยอารมณ์โกรธขึ้งแทบจะในทันที
“เอเลน!!! ทำไมถึงได้เจ็บตัวกลับมาอีกแล้ว รอยแผลพวกนี้มันยังไง แอบไปมีเรื่องมาอีกแล้วใช่มั้ย ทำไมถึงได้ชอบหาเรื่องเจ็บตัวมาไม่เว้นแต่ละวัน นายทำอะไรกันแน่”
ร่างบางไม่ตอบคำถามแต่กลับพยายามตลบผ้าห่มคลุมกายเพื่อหนีหน้าแทนที่จะเผชิญกับพี่ชายตรงๆ
“เอเลน!!! อย่าเอาแต่เงียบ.....พูด.....บอกพี่ออกมาเดี๋ยวนี้” มือใหญ่บีบแขนเรียวจนขึ้นรอยแดง จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้เขาได้พยายามอดทนกับความดื้อรั้นของน้องชายมาโดยตลอด แต่สำหรับวันนี้หลังจากที่ได้รับรู้ความจริงจากเด็กหนุ่มผมทองคนนั้นเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นกับอาการดื้อเงียบของเอเลนได้อีกต่อไป เขาอยากให้เอเลนพูดความจริงทั้งหมด
แต่แทนที่จะตอบคำถาม ฝ่ายน้องชายกลับร้องไห้ออกมาเงียบๆ ริมฝีปากบางเม้มแน่นกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้
“บอก.....ไม่ได้” เอเลนก้มหน้านิ่งส่งเสียงออกมาเบาๆ
“เพราะพี่สำคัญที่สุด.........ผมถึงบอกไม่ได้” เสียงกระซิบปนสะอื้นกลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม
มือใหญ่ปล่อยมือออกจากร่างของน้องชายเอเลนจึงได้โอกาสแอบซุกร่างเข้ากับกองผ้าห่มอีกครั้ง
เบลทรูทลุกขึ้นยืนสูดหายใจลึก มองผ่านหน้าต่างออกไปยังบรรยากาศมืดครึ้มของฝนที่กำลังตกพรำๆ ท้องฟ้าในเวลานี้แลดูขมุกขมัวไม่ต่างไปจากจิตใจของเขาเลย
คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก.................
ร่างสูงเดินห่างออกไปพร้อมกับเสียงประตูห้องที่ปิดลง เสียงสะอื้นที่ดังลอดออกมาจากกองผ้าห่มยิ่งดังมากขึ้น
“ผมขอโทษ.......ผมพูดไม่ได้จริงๆ”
จู่ๆก็รู้สึกถึงแรงกอดรัดผ่านผ้าห่ม ร่างบางถูกยกลอยขึ้นโยนลงไปบนเตียงอย่างรุนแรง
“ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก นายแค่ฟังพี่ก็พอ” เบลทรูทกล่าวขณะที่เสื้อเชิ้ตเครื่องแบบนักเรียนของตนออก
“พี่ไม่ชอบเวลาที่นายไปมีเรื่องกับคนอื่น” ร่างสูงกล่าวพร้อมกับถอดเข็มขัดออกจากบั้นเอว รวบเรียวแขนบางไปผูกยึดตรึงไว้กับหัวเตียง
“พี่ไม่ชอบเวลาที่นายเจ็บตัว” มือใหญ่ริดกระดุมเสื้อเม็ดเล็กออกจากร่างบางเปิดผิวขาวเนียนออกสู่สายตา
“พี่ไม่ชอบเห็นแผลพวกนี้อยู่บนตัวของนาย” มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่องรอยฟกช้ำแผ่วเบา ร่างบางสั่นสะท้านเกร็งแน่นด้วยความตื่นตระหนก
“พี่ไม่ชอบให้ใครแตะต้องนาย” เรือนกายสูงใหญ่ก้มลงทาบทับกดจูบริมฝีปากที่สั่นระริก
“ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องนาย คนที่จะทิ้งร่องรอยไว้บนร่างนี้ได้ มีแค่พี่เท่านั้น” ฟันคมขบกัดดูดดึงจนเลือดสีเข้มไหลซิบออกมาตามเรียวปากบาง เบลทรูทไล้เลียคราบเลือดบนเรียวปากบวมเจ่อของน้องชายซ้ำๆ
“อย่าให้พี่เห็นอีกว่าเจ็บตัวกลับมา.......ไม่อย่างนั้นจะถูกลงโทษ”
ไม่อาจตอบโต้ ไม่อาจขัดขืน แม้ร่างกายจะถูกกระทำล่วงล้ำจาบจ้วงเพียงไหนก็ไม่คิดแม้แต่จะปัดป้องในเมื่อหัวใจนั้นพร้อมยินยอมให้กับพี่ชายมาตั้งแต่แรกแล้ว
“จะบอกได้ยังไงว่าเป็นเพราะผมรักพี่......เรื่องนี้จะให้พี่รู้ไม่ได้เด็ดขาด” น้ำเสียงหอบกระเส่าพร่ำกระซิบพึมพำไม่หยุด มือเรียวโอบกอดร่างใหญ่ไว้เป็นหลักยึดปล่อยให้ร่างกายเคลื่อนไหวสอดประสานไปกับการชักนำของผู้เป็นพี่ชายโดยละมุนละม่อม
“ไม่อยากพูดก็เงียบเอาไว้ แค่นายเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่ก็พอ.......แล้วพี่จะให้รางวัลที่ไม่ไปหาเรื่องเจ็บตัวอีก” เสียงทุ้มเอ่ยสำทับขณะที่ลิ้มชิมรสกลีบปากหวานของร่างบางที่กำลังครวญครางเสียงกระเส่าด้วยความสุขสมปั่นป่วนชนิดที่ว่าสายฝนที่เย็นฉ่ำไม่อาจดับไฟราคะของสองพี่น้องลงได้

เสียงฮัมเพลงของคนที่กำลังเดินทอดน่องสบายใจอยู่กลางสายฝนดังก้องไปทั่วทั้งถนน ไม่ว่าใครต่างก็ต้องหันมองเด็กหนุ่มร่างบางที่เดินฝ่าสายฝนร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ยอมกางร่มที่ถืออยู่ในมือ อาร์มินหันไปยิ้มให้กับหญิงวัยกลางคนที่ยืนถือร่มบังฝนรอรถประจำทางอยู่ใกล้ๆกับตน
“มองอะไรกันครับ คุณน้า.........คุณเองก็คงเป็นพวกที่ฉลาดน้อยเหมือนกันสินะครับ” อาร์มินกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มหวาน
“ก็โลกใบนี้น่ะ.....ใครๆก็เป็นพวกฉลาดน้อยกันทั้งนั้นนี่นะ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับหัวเราะร่วนก่อนจะออกเดินตากฝนผิวปากไปโดยไม่ใส่ใจสายตาของคนรอบข้างอีก

“เยเกอร์!!! นี่แกไปมีเรื่องกับคนอื่นเขามาอีกแล้วเหรอ” น้ำเสียงดุๆที่มาพร้อมกับใบหน้าขรึมๆของอาจารย์ประจำวิชาคณิตศาสตร์ตวัดฉับมาใส่เขาทันทีที่เดินเข้าห้อง
“คาบของฉันแกมาสายสามครั้งแล้วในอาทิตย์นี้ หลังเลิกเรียนไปหาฉันที่ห้องพักครูด้วย” เมื่ออาจารย์หนุ่มร่างสันทัดกล่าวจบจึงหันไปให้ความสนใจกับสูตรในกระดานต่อ
จะเอาอะไรกันนักหนา.......ก็แค่ปล่อยๆไปเหมือนพวกอาจารย์คนอื่นๆก็พอแล้ว.....น่ารำคาญ!!!
เอเลนถอนหายใจขณะที่หย่อนก้นลงนั่งกับที่
“แผลเพิ่มมาอีกแล้วนะ หน้าตาก็ดูโรยๆเหมือนนอนไม่พอ เมื่อวานทะเลาะกับคุณพี่ชายจนดึก หรือทำอะไรกันจนดึกดื่นกันแน่”
อาร์มินที่นั่งอยู่ด้านหลังเลื่อนโต๊ะเข้าไปชิดกับเก้าอี้ของเอเลนแล้วกระซิบถามเสียงเบา
“เป็นไงล่ะ เหมือนอย่างที่จินตนาการไว้มั้ย........หรือของจริงมันรู้สึกดีกว่า”
“แก!!!” เอเลนที่ถูกกวนอารมณ์จนขุ่นตบโต๊ะเสียงดังลุกขึ้นตวาดใส่อาร์มินจนเพื่อนสะดุ้งกันทั้งห้อง แต่อาร์มินกลับเอาแต่ยิ้มร่าไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดแม้แต่น้อย
เศษชอล์กที่ปลิวจากหน้าห้องกระทบเข้ากับศีรษะกลมมนของเด็กหนุ่มจนแตกเป็นผุยผง เอเลนถึงกับตื้อไปชั่วขณะ
“มาสายแล้วยังจะกวนเพื่อนอีก!!! นั่งลงแล้วหุบปากซะ”
เอเลนตวัดตามองอาร์มินด้วยความเคืองอีกครั้งก่อนจะทรุดนั่งลงแต่โดยดี
“ไม่ต้องรอเลิกเรียน หมดคาบนี้แกตามฉันไปที่ห้องพักครูได้เลย”

“ไหนดูสิ พี่ทิ้งรอยไว้บนตัวนายเยอะไปสินะ” เบลทรูทกล่าวด้วยรอยยิ้มพอใจขณะที่แกะพาสเตอร์ตามตัวของน้องชายออก เผยร่องรอยจ้ำสีกุกลาบที่ประดับอยู่ทั่วทั้งเรือนกายบางและจุดซ่อนเร้น
“ได้ยินว่าถูกอาจารย์รีไวเรียกพบเหรอ” เอเลนที่กอดไหล่ร่างสูงแน่นพยักหน้ารับจนผมสะบัด
“ถูกดุอะไรบ้างล่ะ”
“เขาบอกว่า......ร่างกายพ่อแม่ให้มา.....ต้องรักษาให้ดี......ไม่เข้าเรียนสาย......อย่าไป.....มีเรื่องกับคนอื่น....อื้ม!!!!” น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยตะกุกตะกักเบลทรูทยิ้มรับ
“ตรงนี้สินะ” ใบหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มบาดใจขณะที่แกล้งควานนิ้วสอดลึกเข้าไปในร่างของน้องชายกดย้ำจุดกระสันเรียกเสียงครางของคนในอ้อมกอดเล่นๆ
“อาจารย์พูดถูกแล้ว ทั้งร่างกายและสายเลือดของเราต่างก็ผูกพันกัน พี่ทนไม่ได้ที่จะเห็นน้องชายของพี่ต้องเจ็บตัว” เอเลนพยักหน้ารับขณะที่ถูกกดร่างนอนราบลงกับที่นอนขณะที่เบลทรูทขึ้นทาบทับ
“แล้ววันนี้น้องชายของพี่อยากให้ดูแลตรงไหนเป็นพิเศษ”
เอเลนที่ใบหน้าแดงก่ำแยกเรียวขาขาวเผยให้เห็นช่องทางที่ชุ่มฉ่ำชัดๆโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ เบลทรูทเผยยิ้มมุมปากด้วยความพอใจขณะที่เริ่มให้รางวัลน้องชายด้วยความเอ็นดู
“ใช่.....ว่าง่ายๆแบบนี้แหละเด็กดี เอเลนของพี่!!!

…………………………………………………………………….. End.

ถือเป็นแนว incest เรื่องที่สองเลย (เรื่องแรกเพิ่งได้แค่ตอนเดียวเอง ฮา..........) เซอร์วิสน้องสาวในวันเกิดสักนิด แต่อยากจะถามเด็กๆผู้ร่วมขบวนการโม่ยทั้งหลายว่า จะให้จบแค่นี้หรือจะชิพกลับเรือหลักไปหา รีเอ กันดีคะ สำหรับเบลเอเลนนี่ถือว่าจบได้แล้วล่ะกับพี่น้องคู่นี้ แต่ถ้าจะกลับไปหารีเอก็ต้องต่ออีกนิสสสสสสสส





2 ความคิดเห็น:

  1. ใครคู่กับเอเลนก็ดีฮะ จะวนกลับไปหารีไวก็ดีเหมือนกันฮะ---- อยากรู้เฉยๆว่าถ้ารูทรีไวซังเหตุการ์ณจะไปต่อยังไงฮะ แงงง ;v; //โดนตีข้อหาทำคนเขียนลำบากใจ

    ตอบลบ
  2. กร๊ากกกกกกกกก ขอบคุณมากครับขุ่นพี่ที่ฮัก!! ผมว่านี่ไม่ใช่ moral แต่เป็น immoral couple มากกว่า ยิ่งถ้าเตงจะไปรูทอาจารย์ต่อยิ่ง immoral เข้าไปใหญ่ครับ แต่ถ้าหักไปหาอาร์มินหนุ่มจิตสุดติสท์จะเป็น moral จริงๆ แต่ผมสงสารพี่แอนจริงๆครับ วันเกิดพี่แอน พี่เบลได้แอ้มน้อง ความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหนน

    ตอบลบ