Attack On
Titan Fan fic.:ผ่าพิภพบันทึกฟาโรห์
Pairing: (LevixEren)
Rate: NC-17
Warning:*เนื้อหาทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง
ตัวละครมีตัวตนจริงในการ์ตูนเรื่องผ่าพิภพไททัน
แต่เหตุการณ์และสถานที่ทั้งหมดเป็นนามสมมติที่แอบมีเค้าเรื่องจริงปะปนเล็กน้อย!!!!*
Story By:AkeRah,Trendy Blood
………………………………………………………………………………………………..
Chapter
4:
เจ็บๆ
นั่นคือความรู้สึกแรกที่ได้รับหลังจากแสงสีทองที่ห่อหุ้มกายพลันหายไป เอเลนค่อยๆลืมตาขึ้นแสงคบเพลิงในสุสานของฟาโรห์แห่งอียิปต์ที่ขุดค้นเจอสะท้อนเข้านัยน์ตา
รูปปั้นของอนุบิสที่กระทบกับคบเพลิงสะท้อนเด่นชัดถึงสภาพของอายุที่ผ่านมายาวนานของรูปปั้นหิน
นี่...ตกลงเราฝันไปจริงๆสินะ....
ก่อนที่จะหายใจอย่างโล่งอกกุญแจที่กำแน่นอยู่ในมือของเด็กหนุ่มเป็นสิ่งยืนยันเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อสำรวจร่างกายของตน
เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เป็นแนวอียิปต์ยุคโบราณประดับอยู่บนร่างกายของเด็กหนุ่ม
เฉกเช่นเดียวกับเหล่าอักขระตัวอักษรแปลกๆที่ถูกเขียนขึ้นบนผิวยังคงเด่นชัด
ไม่เพียงเท่านั้นนิ้วมือที่บวมแดงจากการพุพองราวกับโดนของร้อนยังคงรู้สึกแสบที่ผิวเนื้อ
ขณะที่เอเลนกำลังตะลึงงันกับสิ่งที่เกิดเสียงเอะอะโวยวายจากภายนอกก็ดังขึ้น
และเสียงนั้นก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เป็นเสียงที่เขาคุ้นหูเป็นอย่างดี
“เอเลนทำไมลูกมาอยู่ที่นี้?”
คริชาแปลกใจเมื่อเห็นบุตรชายมาโผล่ในห้องเก็บพระศพขององค์ฟาโรห์ที่ค้นพบ
แล้วต้องยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีกกับสภาพของลูกชายสุดที่รักที่ตอนนี้แต่งกายได้เข้ากับสถานที่อย่างน่าตกใจ
“พ่อไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกจะชื่นชอบวัฒนธรรมอียิปต์จนแต่งองค์ทรงเครื่องขนาดนี้
ตั้งใจมาถ่ายเซลฟี่ให้เพื่อนๆดูหรือไง?”
คริชายื่นหน้าเข้าใกล้บุตรชายสำรวจร่างกายของเด็กหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่อย่างงงงวย
“โฮ่ หาข้อมูลมาดีนี่เรา
ไหนดูซิเขียนว่าอะไร .......เทพราผู้คุ้มครอง อวตารลงมาเพื่อช่วยเหลือ....”
ชายวัยกลางคนจัดการเดินรอบๆสำรวจลูกชายสุดที่รัก ทั้งจับยกแขนขึ้น
ทั้งสำรวจสิ่งต่างๆบนร่างกายแล้วต้องทึ่งกับความเหมือนจริงในทุกรายละเอียดจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าบางทีถึงลูกเขาจะชอบอารยธรรมกรีกโบราณ
แต่ดูรูปการแล้วความหวังในการให้ฝักใฝ่และหลงใหลวัฒนธรรมอียิปต์คงใกล้แค่เอื้อม
“พ่อขอถามหน่อย”
ร่างที่นั่งนิ่งอยู่นานๆค่อยๆเอ่ยเสียงแผ่ว
เอเลนหันสบตากับบิดาอย่างจริงจัง
ใบหน้ามนขมวดคิ้วมุ่นจนคริชาขมวดคิ้วตาม
“ตอนนี้หน้าผมมีอะไรแปลกๆไหมพ่อ?”
หลังจากฟังคำถามจากลูกชาย
ผู้เป็นพ่อจึงสำรวจใบหน้าและร่างกายของลูกชายไปมา
ก่อนใบหน้าสูงวัยนั้นจะทำสีหน้าตึงเครียด
“เอเลนหน้าของลูก....”
เด็กหนุ่มเริ่มมีสีหน้าจริงจัง
คำสาปไอฟาโรห์นั้นอย่าบอกนะว่าตามมาถึงที่นี้หน้าของเขามีอะไรแปลกๆใช่ไหม!!
ทั้งที่กำลังตื่นตระหนกกับท่าทางของบิดา
แต่แล้วอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อก็รวบตัวเขาไปกอดแน่นพลางเอาหน้าถูไถกับแก้มเด็กหนุ่มอย่างรักใคร่
“หน้าของลูกเหมือนคาร่าแม่ที่ตายไปไม่มีผิดเลย!!!”
“พอเลยพ่อ หนวดมันทิ่ม!!”
เอเลนรีบดันพ่อที่เห่อลูกชายออกห่าง
ก่อนจะจัดการดึงมือที่ราวกับคีบหนีบของผู้เป็นบิดาออกนั่นเหนื่อยไม่ใช่เล่น!! เขาก็มัวตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนลืมไปว่าพ่อของเขาเป็นพวกคลั่งลูกชายขนาดไหน
ยิ่งเขาหน้าตาถอดแบบแม่ที่เสียไปด้วยอุบัติเหตุด้วยแล้วยิ่งทำให้อาการเห่อลูกของคนเป็นพ่อมีทวีคูณ
และเพราะอย่างนั้นตั้งแต่แม่เขาเสียไปตั้งแต่เล็กๆ
พ่อจึงเป็นคนเลี้ยงดูเขามาและพาเขาออกสำรวจด้วยบ่อยๆ
การที่เขาเขาใจภาษาอียิปต์และอ่านอักษรฮีโรกริฟฟิกออกบ้างจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพียงแต่มันเป็นสิ่งที่เขาเห็นจำเจจนไม่ได้ใส่ใจ
ถึงแม้จะอ่านออกและเข้าใจภาษาแต่เรื่องประวัติศาสตร์เรียกได้ว่ารู้แค่ว่าอียิปต์คือรากฐานของอารยะธรรมลุ่มน้ำไนล์แค่นั้น
“ว่าแต่ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม
ตอนพ่อเข้ามาที่นี้พ่อเจอศพคนงานเข้า โดนอาวุธมีคมหัวขาดกระจุย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตอนนี้คีธกำลังจัดการแจ้งเจ้าหน้าที่และเร่งตรวจสอบอยู่”
เอเลนยิ้มเฟื่อนให้กับบิดา
จะให้บอกไปคงไม่เชื่อว่าคนงานโชคร้ายคนนั้นโดนรูปปั้นอนุบิสตัดหัวเอาน่ะสิ
มีหวังพ่อบ้าคงหาว่าเขาเริ่มเป็นอียิปต์ลิซึ่มเอาก็ได้ จริงสิ!!
“พ่อไอนี่เปิดหีบศพได้นะ
ไม่แน่อาจเจออะไรน่าตื่นเต้นกว่าพระศพฟาโรห์ก็ได้” เอเลนยื่นกุญแจทองคำให้กับบิดา
เปิดสุสานได้ทีนี้เขาคงกลับไปเยอรมันได้เร็วขึ้นหรืออย่างน้อยถ้าเกิดแสงประหลาดพาเขาไปที่แปลกๆแบบนั้นอีกคราวนี้ก็มีเจ้าพ่อบ้าไปด้วย
และคนคลั่งอียิปต์ขนาดนี้คงรู้สึกราวกับขึ้นสวรรค์เลยล่ะ
“หืม
ได้มาจากไหนนี่ไอลูกชาย?” คริชามองสำรวจกุญแจที่เด็กหนุ่มให้มา กุญแจทองคำที่ดูเหมือนของเก่าแต่กลับสุกสกาวอย่างน่าประหลาด
“อ...อา....
เจอตกหน้าทางเข้าสุสานน่ะ มันไขหีบได้แน่พ่อลองดูสิ!”
ใครจะไปบอกได้เล่าว่าไอรูปปั้นอนุบิสฆาตกรเป็นผู้ที่ให้เขามา
ของแบบนี้มีแต่ต้องพาไปเจอของจริงด้วยกันนี่แหละ
คริชาลองเสียบกุญแจเข้าไปตรงรูกุญแจหีบศพตามที่ลูกชายชี้นำ
กริ๊ก…
เสียงของกุญแจกับแม่สลักดังสอดคล้องกัน
แววตาของชายวัยกลางคนวาววับอย่างตื่นเต้น
แต่แล้วต้องผิดหวังเพราะฝาโลงกลับไม่ขยับเขยื้อนสักนิด
“อ...อะไรกัน
เมื่อคืนผมยังเปิดได้อยู่เลย!” เอเลนคว้ากุญแจจากมือบิดามาลองไขดูเองอีกครั้ง
เสียงกุญแจกับล็อกที่เข้าสลักกันนั้นได้ยินเด่นชัดแต่ฝาโลงยังคงนิ่งสนิท
ไม่มีทีท่าว่าจะยอมขยับโดยง่าย
ทั้งที่เมื่อคืนเขาจำได้ว่าฝาโลงนั้นเปิดได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งไม่ปรากฏแสงสีทองที่ทำให้เขาทะลุเวลาได้อีก.....
หรือบางทีเขาจะฝันไปเองจริงๆ........ แต่.....แล้วสรารูปเขาตอนนี้ล่ะ
จะว่าเขาละเมองั้นเหรอ?!
แต่ถึงมันจะเปิดไม่ได้เขาก็ไม่ได้อยากเก็บกุญแจไว้หรอกนะ
เอเลนจึงจัดการจับยัดมือให้พ่อของตนที่ยังคงง่วนอยู่ในสุสาน
แล้วปลีกตัวมาจัดการอาบน้ำล้างเหล่ารอยอักขระที่ถูกเขียนขึ้นบนร่างกาย
แม้จะต้องใช้เวลานานเป็นชั่วโมงและถูจนผิวเป็นรอยแดงพื่อลบหมึกเหล่านี้ก็ต้องทำ
จะให้เขาเดินออกไปหาผู้คนโดยที่มีอักขระเขียนว่าร่างอวตารแห่งราแบบนี้คงไม่ดีนัก
หลังจากอาบน้ำอย่างทุลักทุเลจนหมึกทั้งหมดถูกชะล้าง
เอเลนจึงจัดการมาเปิดคอมพิวเตอร์แลปทอปที่พกมาเพื่อหาข้อมูลที่เขาอยากรู้
ฟาโรห์ รีไว ราเมส ที่สอง
.....
อของฟาโรห์หนุ่มถูกพิมพ์ลงในช่องค้นหา
ไม่นานนักข้อมูลในโลกอินเตอร์เนตทั้งหมดก็ถูกโหลดขึ้นมาบนหน้าจอให้เขาได้เลือกอ่าน
ฟาโรห์องค์ที่สองของราชวงศ์ที่สิบเก้า
กษัตริย์ที่โด่งดังและมีชื่อเสียง เป็นทั้งนักปกครอง นักรบและนักรัก........... ใบหน้าหวานแสยะยิ้มเหยเกอย่างหมั่นไส้
ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าหน้าตาและรูปร่างแบบนั้นยิ่งพร้อมด้วยตำแหน่งขนาดนี้คงไม่พ้นจะมีสนมเป็นฮาเร็ม
เผลอๆจะมีลูกนอกสมรสอีกนับไม่ถ้วน ไอเจ้ากษัตริย์หื่นกามนั้นน่าหมั่นไส้ชะมัด!!
แล้วตัวเขาที่อายุสิบแปดแต่ยังไร้วี่แววสิ่งที่เรียกว่าแฟนเพราะมักต้องคอยตามเจ้าพ่อบ้าไปนู้นมานี่ตลอด
ในฐานะที่เป็นผู้ชายด้วยกันแบบนี้มันน่าเจ็บใจสุดๆ เอเลนพยายามข่มความรู้สึกอยากกระโดดเตะคนอายุหลายพันปี
แล้วพยายามไล่อ่านข้อมูลต่อ
ในสมัยของฟาโรห์รีไว
อียิปต์มีความเจริญมั่งคั่งและยิ่งใหญ่ มหาวิหารของพระองค์ถูกสร้างไว้มากมายเพื่อบูชากล่าวว่าเป็นเพราะพระองค์ได้รับความคุ้มครองและพรจากเทพราที่จำแลงลงมา
หืม!! เทพราที่จำแลง
อวตารเทพราที่หมอนั่นพูดถึงสินะ!!
เอเลนพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับร่างอวตารของรามากขึ้น
ร่างอวตารที่เขาถูกพาดพิงถึงเมื่อไปยังโลกอียิปต์โบราณ
“ยามใดเมื่ออียิปต์มีเภทภัยเทพราจักอวตารมานำทาง
เมื่อนั้นรุ่งอรุณแห่งอียิปต์จะมาเยือน
ภาชนะแห่งราจะมีดวงเนตรสุกใสดั่งแสงสุริยัน
อาภรณ์ที่ห่อหุ้มจะโดดเด่นกว่าใครในทุกชนชั้น
เมื่อร่างจำแลงแห่งรามาถึง
เขาจักนำกุญแจทองคำที่ไขซึ่งความรุ่งเรืองทุกสรรพสิ่งติดมา”
คำที่หมอนั่นกล่าวมีบันทึกไว้จริงๆด้วยแหะ เอเลนหยิบกล่องโลหะที่ใส่อุปกรณ์เครื่องเขียนของตนส่องใบหน้าของตัวเอง
นัยน์ตาสีเขียวมรกตสะท้อนเด่นชัดจนเด็กหนุ่มรู้สึกโล่งอก ตอนนี้เขากลับเป็นปกติแล้ว
และกุญแจก็อยู่กับพ่อของเขาแล้วด้วยแบบนี้คงไม่มีอะไรแล้วล่ะนะ....
คิดซะว่าเป็นฝันกลางฤดูร้อนแบบนิยายของเชคสเปียร์ก็แล้วกัน
บางทีอากาศของอียิปต์คงร้อนมากไปและมนต์ขลังของที่นี้คงทำให้เขาเจอเรื่องแปลกๆไปบ้างก็เท่านั้น
แหะ แหะ....
เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะกลับไปสนใจข้อมูลในหน้าเว็บไซต์อีกครั้ง
อวตารแห่งรานำความรุ่งโรจน์สู่อียิปต์ ความปรีชาแห่งรานำอียิปต์พ้นภัย
ฟาโรห์รีไวราเมส คอยให้อวตารแห่งสุริยันเคียงข้างกายทุกย่างก้าว...
ที่ให้เคียงข้างเพราะหมอนั่นจะหวังไว้ใช้งานล่ะสิไม่ว่า ที่บังคับและจัดฉากแบบนั้นต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ
ดูยังไงจากที่ไอฟาโรห์มือไวนั่นพูดก็คิดจะใช้เขาเป็นเครื่องมือเห็นๆ
ก็ไม่แปลกใจหรอกนะเพราะในสมัยก่อนเรื่องเทพเป็นอะไรที่เคารพและนับถือกันมาก
ยิ่งบอกว่ามีร่างอวตารของราลงมาด้วยแบบนี้ก็ทำให้เป็นทั้งขวัญและกำลังใจของประชาชนรวม
อีกไหนจะเพิ่มความน่าเคารพนับถือจากประชาชนและเหล่าพวกนักบวชหรือขุนนางคนอื่นๆอีก
ไอหมอนั่นคิดทั้งหมดนี้เพียงแค่มองเขาปราดเดียวเนี่ยนะ....
อย่าคิดว่าเด็กแบบเขาจะตามตาแก่เจ้าเล่ห์ไม่ทันนะเว้ย ยังไงเขาก็เป็นเด็กรุ่นใหม่
ต้องหัวใสกว่ามนุษย์แก้ผ้าเดินโทงเทงแบบนั้นอยู่แล้ว หึหึ ...... ว่าแต่..........
จะสนใจทำไมยังไงคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว.......
เด็กหนุ่มส่ายศีรษะไปมาไล่ความคิดที่จะสนใจเรื่องของฟาโรห์รีไวราเมส
แต่ร่างกายและมือเจ้ากรรมยังคงไล่อ่านข้อมูลต่อไป
ข้อมูลเกี่ยวกับร่างอวตารที่เขาเจอมีเพียงเรื่องเกี่ยวกับคำทำนายเท่านั้น
ที่เห็นเด่นชัดว่ามีตัวตนจะเป็นเพียงแค่มีการทำพิธีบวงสรวงขึ้น ซึ่งของมันแน่อยู่แล้วเพราะเขาหายไปกลางพิธีแบบนี้เลยทำให้ไม่มีข้อมูลมาต่อแน่นอน
และเขาก็ไม่คิดจะกลับไปที่ที่อันตรายแบบนั้นด้วยล่ะนะ
ถึงอย่างนั้นเขายังคงไล่อ่านประวัติราเมสที่สอง
และสงครามที่ในช่วงการปกครองต่างๆจนสิ้น ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าฟาโรห์คนนี้ต้องเป็นปรปักษ์กับเขาแน่นอน
ไม่ก็เป็นศัตรูกับผู้ชายทั้งโลก ลูกเป็นร้อยกว่าขนาดนี้อย่าให้ต้องนับเลยว่ามีนางในและนางสนมกี่คน
อย่างน้อยตกลูกละคนก็ร้อยห้าสิบเข้าไปแล้ว และไหนจะมีที่ยังไม่ท้องอีกล่ะ!! ไอผู้ชายเจ้าเล่ห์หน้าตายนั้นมีดีอะไรนักหนานักอยากรู้จริงๆ!!!
ระหว่างที่กำลังคร่ำครวญตัดพ้อถึงความแตกต่างในเรื่องของความเป็นบุรุษเพศอยู่นั้น
นัยน์ตาสีมรกตก็เหลือบเห็นโปรสายการบินไปกรีซ
เด็กหนุ่มไม่รอช้าจัดการจองซื้อตั๋วโดยสารทันที และเนื่องจากเป็นตั๋วบินราคาพิเศษเที่ยวบินจึงมีรอบในอาทิตย์หน้าเท่านั้น
ไม่อยู่มันละที่แบบนี้
ไปเที่ยวกรีกตามที่อยากไปแต่ต้นดีกว่าส่วนที่นี่ให้เจ้าพ่อบ้าสรวลฮาเฮกับลุงคีธนั้นแหละ
แม้จะรู้ดีว่าพ่อเขาต้องบ่นอย่างหนักและงี่เง่าอยู่บ้างแต่สุดท้ายคงยอมให้เขาไปอยู่ดี
ไออาการหวงลูกชายแบบนี้คงต้องให้ลูกชายอย่างเขาอยู่ห่างๆบ้างคงจะรักษาอาการให้ดีขึ้นได้
หลายวันต่อมาแม้ผู้เป็นพ่อจะโอดครวญแต่เอเลนก็ยังคงดื้อดึงที่จะไปกรีก
จนผลสุดท้ายอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรกแม้จะเจ็บใจแต่คริชาก็ยอมให้บุตรชายสุดที่รักเดินทาง
แต่มีข้อแม้ว่าต้องเหลือวันหยุดก่อนเปิดเรียนอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์อยู่กับบิดา
หลังจากที่คนขับรถพาเขามาส่งถึงสนามบินอเล็กซานเตรียเบิร์จอัลอาหรับ
ด้วยความเกรงใจเขาจึงให้คนขับรถกลับก่อนไม่ต้องอยู่รอจนเขาขึ้นเครื่องบิน
เพราะเขามาก่อนเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ต้องขอบคุณลุงคีธที่จัดการให้เจ้าพ่อบ้าไปจัดการเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับคนงานที่เสียชีวิต
เขาเลยไม่ต้องมาอายเพราะบทโศกที่อาจเกิดขึ้นกลางสนามบินของผู้เป็นพ่อ
หลังจากโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องเรียบร้อยจนเหลือเพียงเป้สะพายคู่ใจ
เด็กหนุ่มจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ
เอเลนจัดการล้างมือในอ่างตามด้วยล้างหน้าเพื่อล้างคราบฝุ่นทรายที่เกาะตามผิวหน้า
และแขน ในที่สุดก็จะได้ไปกรีกสักที ดินแดนแห่งปรัชญาและความงามที่สมบูรณ์แบบ
แกร๊ก!
ระหว่างที่กำลังรู้สึกผ่อนคลายและลิงโลดอยู่นั้น
ประตูห้องน้ำที่เขาเพิ่งเดินเข้ามาไม่นานกลับเปิดไม่ได้ราวกับถูกล็อกจากด้านนอก
เอเลนขมวดคิ้วมุ่นกับความซวยของตัวเอง
เด็กหนุ่มจึงได้แต่พยายามตะโกนและเคาะประตูเพื่อขอความช่วยเหลือแต่กลับไม่มีใครผ่านมาหรือได้ยินเขาสักราย
หวังว่าจะพอมีอะไรในตัวที่พอจะไขได้นะอย่างน้อยก็คงเป็นพวกบัตรแข็งๆ
ระหว่างที่กำลังล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาบัตรสักใบมาจัดการกับประตูสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่ในกระเป๋ากลับติดออกมาด้วย...
กุญแจทองคำ....
ฮ... เฮ้ย!! ไอกุญแจบ้านี้มาได้ไง ฝากไว้กับเจ้าพ่อบ้าไปแล้วแน่ๆไม่มีทางที่จะมาอยู่ในกางเกงเราแบบนี้!!
ไม่ตลกเลยนะ มันต้องเป็นเพียงเรื่องบังเอิญแน่ๆ
บางทีพ่ออาจเผลอมาใส่ไว้ในกางเกงเรา......แล้วพ่อจะมาใส่ทำไม?
กางเกงไซส์ที่พ่อใส่กับที่เขาใส่ไซส์ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
หรือว่านี้จะเป็นความจงใจของใครบางคน? ไม่หรอกเขาคงคิดมากไป
ตอนนี้เขาควรใช้การ์ดเปิดประตูออกไปจากที่ต้องนี้ก่อน
กึก
บัตรแข็งใบที่ 5 บิดงอ
มือบางเริ่มสั่นระริกกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเปิดประตูด้วยการ์ดแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องใช้การ์ดถึง
5 ใบ ชักไม่ตลกละนะราวกับจงใจงั้นแหละ!!!
เอเลนชำเลืองไปที่กุญแจสีทองที่เขาทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี......
เคยได้ยินเรื่องกุญแจผีมาก็เยอะอยู่หรอกนะ แต่กุญแจผีแบบนี้เขาก็เพิ่งเคยเจอ!!
ใจเย็นไว้เอเลน เยเกอร์มันก็แค่เรื่องบังเอิญ
อย่างน้อยก็มือมือถือคงติดต่อใครได้........
แล้วความคิดก็ต้องดับวูบลงเพราะสัญญาณโทรศัพท์ที่ควรจะมีกลับว่างเปล่าไม่เหลือสักขีด
อีกทั้งยังขึ้นเป็นรูปเครื่องหมายกากบาทปฎิเสธสัญญาณอย่างชัดเจน
เด็กหนุ่มมีความรู้สึกราวกับจะหน้ามืดเสียให้ได้
ถ้ามีเปรียบเป็นเกมส์ในเกมส์RPG ตอนนี้เท่ากับว่าเขาโดนบังคับให้รับทำเควสที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่สินะ!! ไม่หรอกเขาคงคิดมากไป บางทีนี่คงเป็นกุญแจคนละดอกกันและก่อนหน้านี้เขาเคยลองไขกับหีบศพดูแล้วก็ไขไม่เห็นได้
เป็นแค่กุญแจปกติเท่านั้นแหละนะ
อีกอย่างกุญแจโบราณแบบนี้จะมาไขกับกลอนสมัยใหม่ได้ยังไง
ระหว่างกำลังประเมินความคิดในหัวนัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองกลอนประตูที่ลูกบอดมีช่องเสียบลูกกุญแจ
จากปกติที่กลอนมักเป็นแบบแบนตามสมัยนิยม
ทำไมตอนนี้เขารู้สึกว่าช่องเสียบดูเหมือนจะใส่ลูกกุญแจดอกนี้ได้กัน?
เอเลนพยายามรวบรวมสติและสมาธิ
เด็กหนุ่มจึงกลับมาที่การพยายามบิดประตู เคาะ กระแทก
รวมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่ทุกอย่างยังคงเงียบงัน
ราวกับว่าเขาถูกตัดขาดจากโลกภายนอกยังไงอย่างงั้น
เอเลนชำเลืองมองกุญแจที่อยู่ที่พื้นอีกครั้ง ก่อนจะฝืนใจเก็บขึ้นมา
เอาน่ายังไงก็เคยไขไปแล้วและมันก็ใช้งานไม่ได้แล้วด้วยตอนนี้ก็คงเหมือนกัน
ไม่ใช่กุญแจผีสักหน่อย เป็นแค่กุญแจทองธรรมดาที่หน้าตาคล้ายกันเท่านั้นเอง...
เด็กหนุ่มพยายามรวบรวมสติและความกล้าก่อนจะกลืนน้ำลายหนืดลงคอ
ลูกกุญแจถูกเสียบเข้าช่องก่อนจะถูกไข
กริ๊ก
เสียงสลักดังขึ้น
เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อทุกอย่างยังคงสู้สภาวะปกติ
ใบหน้ามนยิ้มบางก่อนจะจัดการไขกลอนจนสุดเพื่อเปิดประตู
แสงสว่างสีทองจ้าอร่ามโอบอุ้มร่างบางและสัมภาระ
เอเลนหลับตาแน่นกับประกายจ้าของแสงสีทอง
เปลือกตาบางค่อยๆขยับเมื่อรู้สึกว่าแสงจ้าที่แสบตาเริ่มจางลง
แต่ใบหน้าหวานต้องตะลึงงันกับในหน้าคมคายที่อยู่เบื้องหน้าแทน
“ถึงเจ้าจะเป็นชายแต่อย่างเจ้าข้าก็ไม่รังเกียจหรอกนะเจ้าหนู”
“แว๊ก!!!!!!!!!!”
เอเลนรีบดีดตัวขึ้นสุดแรง
ใบหน้าคมคายที่เขาไม่อยากนึกถึงอยู่ใกล้เพียงแค่ปลายจมูก
มิหนำซ้ำเขายังคร่อมร่างกำยำนั้นบนเตียงอีกต่างหาก
“ที่จริงเจ้ากำลังเชิญชวนข้าอยู่สินะ ครั้งแรกก็ที่ห้องน้ำ
บัดนี้มาอยู่บนที่นอนของข้า”
“ไม่มีทาง!! ทำไมผมต้องอยากให้ท่าคนแบบคุณด้วย
และขอย้ำอีกครั้งผมเป็นผู้ชายชอบผู้หญิงนะครับ!!”
เอเลนพยายามตะกายตัวให้ออกห่างชายหนุ่ม
ตกลงว่านี้เขาต้องมาทำเควสเหมือนในเกมส์จริงๆรึไงกัน!! ตลกเกินไปแล้ว
และโผล่มาทั้งทีทำไมต้องมาคร่อมเจ้าผู้ชายล่ำบึกแบบนี้ด้วย จะเป็นคลีโอพัตราสวยๆไม่ได้รึไง!!
พอถึงปลายเตียงร่างบางกลับโดนกระชากตัวเข้าหาเจ้าของห้องอีกครั้ง
มือแกร่งเชยคางเด็กหนุ่มขึ้นมอง
นัยน์ตาคมกล้าจ้องเขม็งกับใบหน้าของเด็กหนุ่มจนเอเลนเริ่มเหงื่อตก
ตกลงทำไมหมอนี่ชอบจ้องเขาจัง ไอผู้ชายเจ้าชู้มักมากแบบนี้อย่าบอกนะว่าแม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ไม่เว้น
ไม่ตลกละนะแบบนั้น!!
“เจ้าน่ะที่จริงแล้วเป็นใครกัน?
ถ้าไม่ใช่นักฆ่าหรือจะเป็นพวกพ่อมดหมอผี
เมื่อสักครู่มีแสงสีทองสว่างจ้าปรากฏและเจ้าก็ออกมาจากแสงนั้น
เช่นเดียวกับงานบรวงสรวงเมื่อสามเดือนก่อนที่เจ้าหายไป”
ห๊ะ
เวลาเพียงแค่ไม่กี่วันนี่เขาหายจากที่นี้ไปถึงสามเดือนเลยงั้นเหรอ!
สิ่งที่เกิดขึ้นจะบอกเขาเป็นพ่อมดหมอผีในยุคนี้ก็คงไม่แปลกล่ะนะ
แต่...มันมีเด็ดกว่านั้นที่หมอนี่วางไว้ให้เขาอยู่แล้ว
เอเลนส่งยิ้มเป็นประกายกล้าให้กับชายหนุ่ม นัยน์ตาสีอร่ามจ้องมองนัยน์ตาคมตอบกลับอย่างแกร่งกล้า
“ท่านบอกเองมิใช่หรือว่าข้าคือภาชะนะแห่งรา อวตารเทพสุริยัน
การหายตัวและปรากฏตัวด้วยแสงราวกับอาทิตย์สาดส่องนั้นก็บอกท่านแล้วมิใช่รึ?”
เอเลนแอบกลั้นขำในใจกับการพูดจาที่ต้องเหมือนคำโบราณของตน
แต่แบบนี้เผื่อจะทำให้ชายหนุ่มอย่างน้อยรู้จักเกรงใจเขาบ้าง
แต่บางทีเขาอาจคิดผิดเพราะคนตรงหน้ากลับส่งยิ้มราวกับรู้สึกถูกใจให้เขา
“ไม่เลว...
ข้าเริ่มเชื่อแล้วว่าคำทำนายอาจเป็นจริงดั่งที่จารึก
ดังนั้นช่วยไขข้อกังขาข้าทีว่าเจ้าไปที่ใดมาแล้วกลับมาที่นี้ได้อย่างไร?”
ใบหน้าหวานเริ่มยิ้มเกร็ง ไม่เพียงแต่ไม่คิดจะยำเกรงเขาบ้างแต่เจ้าหมอนี่กำลังพยายามไล่ต้อนเขา
ไม่สิเรียกให้ถูกพยายามสอบสวนเขามากกว่า เอเลนชำเลืองมองกุญแจที่อยู่ในมือ
ยังไงก็ไม่มีทางบอกหมอนี่เด็ดขาดว่าเขามาที่นี้ได้ยังไง
ดูยังไงนี่ก็เป็นศัตรูกับเขาชัดๆ ทางหนีทีไล่ของเขาทั้งทีแบบนี้จะบอกให้โง่ทำไม!
“ข้าไปมาได้ดั่งใจนึก เพียงแค่ข้านึกอยากไปก็ไป อยากมาก็มา
ท่านก็รู้เทพรู้ทุกสิ่งและสามารถไปได้ทุกที่”
“โฮ่ ไม่เลว ข้าเป็นกษัตริย์ที่มีเทพเคียงกายสินะ
ข้าหวังว่าเจ้าจะทำหน้าที่ของเจ้าได้ดีเอเลน .......อวตารเทพของข้า..”
“เดี๋ยวก่อนข้ายังไม่บอกเลยนะว่าข้าจะเป็นเทพของท่านหรือจะช่วยท่านน่ะ!!”
เอาแต่ใจชะมัดเรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมช่วยศัตรูด้วยล่ะ!
ฉัวะ!
ขนนกที่ถูกยัดแน่นในหมอนใบใหญ่ปลิวว่อนกระจาย ร่างกำยำตวัดมีดอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็นใบหน้าคมคายจ้องมองเด็กหนุ่มนิ่งงัน
“ถึงเป็นเทพแต่ก็เป็นร่างภาชนะ อย่างที่ข้าเคยให้เจ้าเลือก หรือจะให้ข้าควักนัยน์ตาสีอร่ามของเจ้าไว้ใช้งานล่ะเด็กน้อย?”
นับวันเอเลนยิ่งแสดงท่าทีรังเกียจฟาโรห์หนักขึ้นเรื่อยๆ จะเอนด์กันยังครับเนี่ย 55555555
ตอบลบนั่นน่ะสิ~ อยากรู้เช่นกันค่ะ >\\\<
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบสนุก ^ ^
ตอบลบขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะครับ
รีเอ คือที่สุดของที่สุดแล้ว
ขอบคุณมากค่า
ลบขอบคุณมากค่า
ลบ