วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Attack On Titan Fic (Levi x Eren) The Change Of Voice -1st Voice

TiTle: The Change Of Voice
AuThor: Akerah
StaRRing: Levi X Eren

เจ้าชายอสูรคือชายผู้ถูกสาปให้มีรูปโฉมที่โหดร้ายน่ากลัวแต่มีจิตใจที่งดงาม แต่อสูรร้ายตนนี้กลับมีรูปลักษณ์ที่งดงามราวเทพบุตร แต่จิตใจกลับหยาบกร้านไร้ซึ่งความปราณี

 1st Voice
เสียงจอกแจก จอแจ ดังลั่นร้านอย่างเช่นทุกๆวันในช่วงเวลามื้ออาหารกลางวันแบบนี้
สเต็กเนื้อมีเดียมแรร์สอง ฟรุ๊ตสลัดสวีทตี้สองครับ
แป้บนึงนะเอเลน.....เออนี่ ช่วยไปหยิบไวน์แดงปีแปดศูนย์จากตู้เก็บไวน์ให้ลุงสักขวดสิ
ได้ครับ
นี่.....ลุงฝากจานนี้ไปที่โต๊ะแปดด้วยนะ
ครับ
ที่ๆผมอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือร้านสเต็กเฮาส์ที่อยู่แถบนอกเมือง ลูกค้าที่มาที่นี่ส่วนมากมักจะเป็นขาประจำหรือไม่ก็คนท้องถิ่น ถ้าพวกขาจรจะไม่ค่อยรู้จักกันนักหรอก แต่ถึงอย่างนั้นร้านนี้ก็ยังมีลูกค้าเต็มแน่นทุกวัน
นี่ครับ อาหารที่สั่ง เชิญเลยครับ
ว๊าย.....เอเลน วันนี้ก็น่ารักอีกแล้วนะคะ นั่งคุยกันก่อนสิคะ
ขอโทษครับ ช่วงนี้ผมกำลังยุ่งลูกค้าเต็มร้านเลย
ไม่เอาน่าอย่ากวนเอเลนสิ....นี่ๆเธอดูลูกค้าคนนั้นสิ หน้าตาคุ้นๆนะเหมือนเคยเห็นที่ไหนอ่ะ เป็นนักร้องหรือดาราหรือเปล่าน่ะ ดูหล่อ โดดเด่นสุดๆเลย
ผมหันไปมองคนที่พวกเธอพูดถึง ชายหนุ่มร่างสันทัดสวมเสื้อโค้ทสีดำยาว แว่นกันแดดสีเข้มเลนส์โตเดินเข้ามาในร้าน เหมือนเขากำลังมองหาใครอยู่
ขอตัวก่อนนะครับ ผมบอกพวกเธอแล้วปลีกตัวออกมา พยายามเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อจะเข้าไปห้องครัวให้เร็วที่สุด
เจอตัวสักที..... ผู้ชายคนนั้นกล่าวพร้อมกับฉุดแขนผมไว้
ตามฉันมา ผมถูกเขาลากถูลู่ถูกังออกจากร้านท่ามกลางความตกอกตกใจของทุกคนแล้วยัดเข้าไปในรถพอร์ชสีดำ ชายผู้นั้นกระโดดขึ้นฝั่งที่นั่งคนขับแล้วหันมาขู่ผม
อย่าคิดว่าจะหนีไปไหนอีก โดนดีแน่ เขาออกรถด้วยความเร็วโดยที่ไม่ได้บอกผมสักนิดว่ากำลังจะมุ่งหน้าไปไหน ผมได้แต่นั่งไปเงียบๆเพราะไม่อยากจะขัดใจเขา
ทำไม....มองหน้าฉันทำไม ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงรึยังไง เขาเอ่ยถามเสียงห้วน แต่ผมไม่รู้ตัวเลยจริงๆว่ากำลังมองเขาอยู่
ถ้าคิดถึงฉันมากขนาดนี้ แล้วหนีฉันไปทำไม
ไม่ได้คิดถึง ไม่ได้หนี ฉันก็แค่ย้ายบ้าน
ไปไม่บอกไม่กล่าว หายไปดื้อๆ ไม่เรียกว่าหนีแล้วจะให้เรียกว่ายังไง
ฉันจะไปไหน.....จะทำอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับนาย
เขาเบรกรถกะทันหันเสียผมหน้าแทบคว่ำ สายตาเย็นชาทิ่มแทงทะลุผ่านแว่นกันแดดสีเข้มส่งมาให้ผม
ถ้าไม่ถูกสั่งสอนเสียบ้าง คงไม่หลาบจำสินะ....เอเลน
รถพอร์ชสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่คอนโดใหญ่ย่านกลางเมือง เขาลากผมลงจากรถแล้วเดินเข้าไปข้างใน มีหลายคนที่หันมามองเราด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่สักพักพวกเขาก็เลิกสนใจ ผมพยายามขัดขืนฉุดกระชากตัวเองให้พ้นจากมือเขา แต่กลับถูกมือที่แข็งดั่งคีมเหล็กบีบไว้แน่น
ปล่อย... ผมได้แต่ประท้วงเบาๆแต่เขาไม่ฟังผมเลยสักนิด ประตูห้องพักระดับไฮโซถูกเปิดออก เขาผลักผมเข้าไปข้างในแล้วปิดล็อคประตูไว้
เปิดประตู ผมพยายามดิ้นรนขัดขืนเรี่ยวแรงอันมหาศาลของเขาที่กอดรัดผมไว้แน่น
ปล่อย....ฉันจะกลับ ผมพยายามปัดป้องมือที่ฉีกกระชากชุดของออกจนเผลอต่อยเขาเสียจนอีกฝ่ายมุมปากแตก แว่นกันแดดสีเข้มหล่นแตกกลิ้งไปตามพื้น ดูเหมือนเขาจะตกใจที่ผมทำร้ายเขา ผมเองก็ตกใจเหมือนกันว่าทำลงไปได้ยังไง
รีไว ฉันขอโทษ........ ดูเหมือนเขาจะโกรธจัดยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้เขาไม่ยอมฟังผมแล้ว
รีไวอย่า....อย่าทำแบบนี้ มือใหญ่ฉีกเสื้อผ้าผมจนขาดวิ่นแล้วลากผมเข้าห้องนอน
ปล่อย รีไว อย่าทำแบบนี้.... นอกจากจะไม่ฟังชายคนนี้ยังจับผมทุ่มลงที่นอนก่อนที่เขาจะตามขึ้นมาคร่อม
รีไวตั้งสติหน่อย ฟังฉันนะ อย่าทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคนที่จะเสียใจก็คือนายนะ รีไวหยุด!!!”ริมฝีปากอุ่นๆพรมจูบลงบนเรือนร่าง ไร้ซึ่งความรักและความปราณี
รีไวอย่า.....
เขาทุ่มเรี่ยวแรงทั้งหมดลงกับการปู้ยี้ปู้ยำผม ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการกระทำ ทั้งป่าเถื่อนและรุนแรง ผมหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ หมดเรี่ยวแรงที่จะปัดป้อง เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวดูเหมือนจะไม่ทำให้เขาผ่อนปรนลงสักน้อย หรือนี่คือบทเรียนที่เขาต้องการสั่งสอนผมอย่างนั้นหรือ
เวลาดำเนินผ่านไปด้วยความเชื่องช้า บทลงโทษนี้ดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น ครั้งแรกผ่านพ้นไปด้วยความทรมาน ครั้งที่สองและสามกลับยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้ผมมากยิ่งขึ้น เรี่ยวแรงของเขาดูแทบจะไม่ลดลงเลยในขณะที่ผมไม่มีแรงที่จะต่อสู้กับเขาอีกแล้ว
นายพาผู้หญิงขึ้นห้องอีกแล้วเหรอ.....ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าจะไปมั่วที่ไหนก็ไป แต่อย่าหิ้วกลับมาห้อง
ไม่ใช่ผู้หญิง....
จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เหมือนกันห้ามเอากลับมาห้องเด็ดขาด อย่าลืมนะว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร พวกนักข่าว ปาปารัสซี่ที่ต้องการข่าวฉาวของนายมันมีเป็นโขยง ถ้าเกิดพวกนั้นมันถ่ายรูปคาวๆของนายมาได้แล้วจะทำยังไง
ก็แก้ข่าวไปสิ ว่ามันไม่จริง ก็แค่คนหน้าเหมือน อะไรทำนองนั้น
รู้มั้ยว่าฉันต้องเสียเงินทองไปเยอะแค่ไหนกับการอุดข่าวคาวๆของนาย รีไว!!!!”
นั่นมันเป็นเรื่องที่พี่ต้องจัดการอยู่แล้วไม่ใช่รึไง
รีไว!!! แก
จะตบผมเหรอ......พี่กล้าตบหน้าผมรึไง พี่บอกเองนี่ว่าหน้าของผมมันมีค่ายิ่งกว่าทอง ให้ผมรักษาเอาไว้ให้ดี แล้วพี่จะตบผมได้รึไง
แก.....ไอ้เด็กเลว
เสียงคนทะเลาะกันข้างนอกดังเข้ามาถึงข้างในห้อง ผมได้แต่นอนฟังอยู่เงียบๆ มรสุมที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ทำให้ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับตัว
มันอยู่ไหน
ใคร.....
ไอ้คนที่แกลากมันขึ้นห้อง อยู่ที่ไหน
ห้องนอน
เสียงฝีเท้าหนักๆดังตรงมาทางนี้ แล้วประตูก็เปิดออก เศษซากเสื้อผ้ากระจัดกระจายทั่วห้อง ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่เกรอะกรังไปด้วยคราบเลือด
โสโครกจริงๆ เขาบ่นเบาๆก่อนจะเดินมาเปิดผ้าห่มที่คลุมตัวผมอยู่
.............. ผมได้แต่นอนนิ่งแกล้งทำเป็นหลับทั้งๆที่น้ำตายังคงไหลเป็นทาง ผ้าห่มผืนหนาถูกห่มทับร่างผมอีกครั้ง เสียงฝีเท้าตึงตังเดินออกจากห้องไปปิดประตูดังปัง แล้วเสียงโวยวายก็ดังขึ้น
แกทำแบบนี้ได้ยังไง รีไว แกทำแบบนี้ได้ยังไง
พี่จะโวยวายอะไรกันนักกันหนา.....มันน่ารำคาญ
แกอยากจะคั่วกับใคร จะไปฟัดกับหมาที่ไหนฉันก็ไม่ว่า ขอแค่เป็นที่ลับตาคนก็พอ แต่นี่.....แกทำแบบนี้กับเขาได้ยังไง
มันหนักหัวพี่รึยังไงกันล่ะ
ก็นั่นมันเอเลนนะ.....แกทำแบบนี้กับเอเลนได้ยังไง
เด็กที่ไม่เชื่อฟังก็ต้องถูกลงโทษ ใครใช้ให้เขาหนีผมไป
ก็เพราะแกทำตัวแบบนี้ เขาถึงทนแกไม่ได้ จะมีใครที่ไหนทนเด็กเอาแต่ใจนิสัยเสียอย่างแกได้กันล่ะห๊ะ.......รีไว ฉันถามทีเถอะ ที่แกเฝ้าตามหาเขามาเป็นปีๆเพียงเพื่อจะรังแกเขาแบบนี้รึไง
ผมก็แค่ลงโทษให้เขาหลาบจำ จะได้ไม่คิดหนีผมไปอีก
แกมัน.....แย่ที่สุด เกิดมาเป็นน้องฉันได้ยังไงกันวะ เกิดเสียงตึงตังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงประตูปิดดังลั่นเสียจนผนังห้องสะเทือน
ความเงียบสงบกลับเข้ามาสู่ห้องอีกครั้ง ประตูห้องนอนเปิดออกพร้อมกับเสียงถอนหายใจเบาๆ ที่นอนนุ่มยวบลงเมื่อมีคนทิ้งน้ำหนักตัวลงข้างผม สัมผัสเบาๆที่ลูบไล้ศีรษะมันช่างแสนอ่อนโยน
ถ้าเพียงแต่นายไม่ทิ้งฉัน ถ้าเพียงแต่นายไม่หนีฉันไป ฉันคงไม่ต้องทำแบบนี้
อ้อมกอดอบอุ่นโอบกระชับร่างเปลือยเปล่าที่ชอกช้ำของผมเอาไว้ ทั้งๆที่พยายามหนี ทั้งที่พยายามไม่สนใจ แต่สุดท้ายมันก็ลงเอยแบบนี้อยู่ดี ถ้าเพียงแต่วันนั้นผมไม่ตอบเขาไปแบบนั้นก็คงไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้

-o-Flash Back-o-
กะแล้วว่าต้องอยู่ที่นี่ จะโดดเรียนทำไมไม่เรียกฉันเสียงทุ้มจากคนที่อยู่ด้านหลังนี้ผมรู้ดีว่าเป็นใคร ถึงไม่ต้องหันไปมองก็เถอะ
ถ้าฉันโดด อย่างน้อยนายก็ควรจะอยู่เรียนต่อ ดีกว่าขาดทั้งคู่ ผมตอบเขาไปพลางพ่นควันบุหรี่ออกมาเบาๆ
นายไม่อยู่ฉันเรียนไม่รู้เรื่อง เขาเดินมากอดคอผมเอาไว้แล้วแย่งบุหรี่จากปากผมไปดูดเสียเอง ผมหันไปมองเขาอย่างเคืองๆ แต่เขากลับส่งยิ้มกวนกลับมา
รีไว มักจะเป็นอย่างนี้เสมอตั้งแต่จำความได้ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่แยแสต่อความคิดของใคร ชอบเล่นตลกกับความรู้สึกของคนอื่น พูดถ้อยคำให้คนอื่นหวั่นไหวโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
ผมปัดมือเขาออก แต่เขาก็ยกขึ้นมากอดคอผมอีกครั้ง ผมจึงต้องปล่อยไป
แล้วออดิชั่นเป็นไง
ก็เรื่อยๆแหละ....แต่ดูเหมือนงานจะเยอะขึ้น พี่เองก็แทบจะจัดคิวให้ไม่ทัน.....เอเลน ถ้าจบแล้วนายจะต่อมหาลัยไหน
ไม่รู้สิ...ยังไม่ได้คิด แล้วนายล่ะ จะต่อที่ไหน
ฉันไม่เรียนต่อ.....
อะไรนะ
ฉันจะเข้าวงการ
อ่อ......เป้าหมายของนาย จะเป็นนักร้องสินะ
อืม.....ฉันจะเป็นนักร้องที่ดังที่สุดและจัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวโดม
อืม....ก็ดี ฉันเอาใจช่วย จริงสิ ฉันเห็นข่าวนายกับนางแบบหลายคน
ก็ช่วยไม่ได้ ยายป้าพวกนั้นน่ะวิ่งตามฉันเอง เสนอมาขนาดนั้น ก็เลยจัดๆให้ไปซะจะได้จบ.....นายล่ะช่วงที่ฉันไม่อยู่ด้วยน่ะ แอบนอกใจฉันไปกิ๊กกับใครรึเปล่า
หึ.....ฉันมันไม่ฮ็อทเหมือนนายนี่ เรื่องแบบนั้นจะมีได้ยังไง
จริงน่ะ.....อะไรกัน ทั้งๆที่เอเลนของฉันน่ะออกจะน่ารักขนาดนี้ พวกสาวๆมันตาถั่วได้ยังไง
ผู้หญิงเขาคงชอบแบบนายมากกว่าล่ะมั้ง ผมตอบเขาไปเซ็งๆ.....เออ กุมันไม่หล่อเหมือนมึงนี่หว่า
ถ้างั้นจูบก็ยังไม่เคยล่ะสิ
ว่าไงนะ ผมหันกลับไปมองเขาด้วยความตกใจ เขาถามผมซ้ำอีกครั้งไม่มีวี่แววล้อเล่นเลยสักนิด
ฉันถามว่ายังไม่เคยจูบใช่มั้ย....
เรื่อง....เรื่องแบบนั้นมันจะมีได้ยังไง ผมหันหน้าหนี ถามอะไรของมัน น่าอายชะมัด
จะลองดูมั้ย
หา
จูบน่ะ จะลองดูมั้ย.... รีไวพูดกับผมด้วยท่าทางจริงจัง
กับฉัน......อยากลองมั้ย เอเลน ผมมองหน้าก่อนจะทอดสายตาหันไปมองทางอื่นแล้วตอบเสียงเบาเสียยิ่งกว่าเสียงกระซิบ
ก็เอาสิ......
จูบครั้งแรกของผมกับเพื่อนสนิท รสจูบที่เจือไปด้วยกลิ่นบุหรี่ เรียวลิ้นสัมผัสที่อ่อนนุ่ม ลมหายใจที่ต่างคนต่างมอบสัมผัสแก่กัน เป็นจูบแรกของผมที่ไม่มีวันลืมเลือน
เป็นยังไง.....
ก็ดี.......
ผมได้แต่ปั้นหน้าเรียบตอบไปแบบนั้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่หัวใจของผมแทบจะระเบิดออกมาจากอก แต่รีไวลับหัวเราะร่าราวกับเป็นเรื่องตลกน่าขบขัน อันที่จริงผมรู้ตัวมาตั้งนานแล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่นี้แล้วก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าผม.....รักรีไวมากแค่ไหน
มากเสียจนไม่อาจจะกลับเป็นแค่เพื่อนกันได้อีกแล้ว ในเมื่อความผูกพันอันชิดใกล้ที่มีให้กันมาตั้งแต่เด็กมันเริ่มเหนียวแน่นและแปรเปลี่ยนจนกลายมาเป็นความรัก ความรู้สึกที่ผมไม่อาจจะพูดออกไปได้ ความรู้สึกที่ผมไม่อาจแสดงออกได้และยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ ความรู้สึกของผมก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้นผมไม่อาจจะอยู่เคียงข้างเขาในฐานะของเพื่อนสนิทได้อีกต่อไป สุดท้ายจึงกลายเป็นผมที่ต้องเป็นฝ่ายถอนตัวถอยออกมา
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็สามปีแล้วสินะ.......สามปีที่ผมคิดว่าไม่มีเขาแล้วจะลืมเขาไปได้......แต่ก็ไม่เลย
กลับกลายเป็นว่า ผมไม่อาจจะลืมเสียง สัมผัส และรสจูบครั้งแรกของเขาได้เลยจริงๆ
.................................................................

อากาศในห้องนอนที่แสนจะเย็นเยียบผมได้แต่นอนขดกายซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอยู่แบบนั้น
จะนอนจนเน่าติดที่นอนเลยรึไง ถ้าตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำ ฉันเปิดน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว เสียงทุ้มเอ่ยกับผมด้วยอารมณ์ที่ติดจะขุ่นมัว ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง
.......ปวดสะโพกชะมัด
ไปอาบน้ำซะ.....สกปรก ผมลุกจากที่นอนเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยร่างกายเปลือยเปล่า.....ถึงขั้นนี้แล้วก็คงไม่ต้องมีอะไรปิดบังกันอีก
อ่างน้ำวนขนาดใหญ่ถูกเปิดน้ำอุ่นเอาไว้จนเต็ม ผมค่อยๆหย่อนตัวลงไปแช่น้ำอุ่นนั้น ความปวดเมื่อยถูกบรรเทาลงไปได้บ้างพอสมควร ประตูห้องน้ำเปิดออก รีไวก้าวเท้าเข้ามาโดยที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ผ้าขนหนูผืนนุ่มถูกถอดกองทิ้งไว้กับพื้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปเปิดฝักบัวชำระล้างร่างกาย เขาทำเหมือนกับผมไม่ได้มีตัวตนอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ในเมื่อเขาไม่อายแล้วผมจะอายทำไมในเมื่อตอนเด็กๆก็แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันออกจะบ่อย เสร็จแล้วเขาก็ก้าวลงมาแช่น้ำในอ่างเดียวกันกับผม
นั่งแช่อยู่ได้....หันมาสิจะถูหลังให้
ไม่จำเป็น ฉันทำเองได้
ทำเองได้จริงเหรอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่ครั้งแรก.....ฉันเป็นคนแรกของนาย
ก็รู้ว่าครั้งแรกทำไมต้องรุนแรงด้วย
ก็อารมณ์มันพาไป....มานี่มา ไอ้ของที่ค้างอยู่ข้างในยังไงนายก็ต้องเอาออกมา....ฉันจะทำให้
เขาดึงตัวผมเข้าไปหาแล้วเลื่อนตัวเองมาประกบซ้อนหลังผมไว้ มือใหญ่ลูบไล้บีบคลึงไปตามแผ่นหลังผมเบาๆก่อนจะค่อยๆคืบคลานลงไปยังส่วนที่ต่ำกว่า
แยกขาออกอีกสิเอเลน....ฉันทำไม่ถนัด มือใหญ่บีบคลึงโคนขาผมแรงๆ
กว้างกว่านี้อีก....ใช่อย่างนั้นล่ะ เสียงทุ้มกระซิบเบาๆชิดใบหู ลิ้นอุ่นๆชอนไชเข้ามาหยอกเย้าให้ผมต้องเอียงหน้าหนี
เอนหลังมาพิงอกฉัน....ไม่ต้องเกร็ง นายจะเจ็บ ผมทำตามที่เขาบอกแต่โดยดี มือใหญ่ที่บีบคลึงโคนขาเริ่มลุกล้ำลงไปต่ำกว่านั้น นิ้วยาวค่อยๆสอดเข้าไปยังช่องทางที่ปวดระบมของผมช้าๆ ผมรีบหนีบขาไว้แน่น
นายต้องผ่อนคลายให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะเอาของที่ฉันปล่อยไว้ข้างในออกมาได้ยังไง แยกขาออกกว้างๆเอเลน เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมทำตาม มืออีกข้างที่ว่างจึงบีบคลึงสะโพกผมไปด้วยเบาๆ
แยกขาออก....เอเลน ฟันคมขบเบาๆลงบนไหล่เล็กและหลังคอที่ชุ่มน้ำของผม
แยกขาออก ให้ฉันเข้าไป เขากัดหูผมเต็มแรงจนผมเผลอสะดุ้ง นิ้วยาวที่จ้องจะรุกรานผมอยู่แล้วสอดแทรกผ่านเข้าไปได้ถึงภายในกายผม
อ๊ะ..... เสียงน่าอายหลุดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นจนเลือดออก เมื่อนิ้วแรกหลุดเข้าไปได้ นิ้วสองและสามก็ตามไปติดๆ นิ้วทั้งสามค่อยๆประสานงานเกี่ยวคว้านเอาน้ำสีขาวขุ่นที่เขาเป็นคนทิ้งค้างไว้ออกจากตัวผมช้าๆ
อึดอัดมาก ก็จูบฉันสิ
ผมได้แต่ก้มหน้านิ่งสกัดกั้นเสียงครางของตนเองเอาไว้ เล็บทั้งสิบจิกแน่นลงบนหน้าขาของเขา รีไวกัดต้นคอผมจนเป็นรอยฟันเป็นการตอบสนองแล้วพลิกตัวผมให้คว่ำหน้าเกาะขอบอ่างไว้ นิ้วทั้งสามถอยทัพกลับไปเปลี่ยนเป็นสิ่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่โตผิดกันมาแทนที่
การรุกรานที่ไม่ได้บอกกล่าวกันล่วงหน้าทำให้ผมตื่นตกใจ ถึงแม้จะมีน้ำอุ่นคอยชโลมกายให้แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันเจ็บไม่ต่างจากเมื่อคืนนี้อยู่ดี ทุกการเคลื่อนไหวก่อให้เกิดแรงกระแทกเสียจนน้ำในอ่างกระฉอกเต็มพื้นห้องน้ำ ถึงแม้จะมีน้ำช่วยพยุงผ่อนแรงให้แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่เขาโถมเข้าใส่มันช่างหนักหน่วงเสียเหลือเกิน ผมได้แต่ยึดขอบอ่างไว้เป็นที่พยุงตัว
อึ่ก....อื้ม...พอ
เสียงที่เปล่งออกมาช่างแผ่วเบาเสียยิ่งกว่าเสียงกระซิบ เพราะมันถูกเสียงกระแทกของคลื่นน้ำดังกลบเสียหมด รีไวขยับกายถี่ๆอีกสองสามครั้งแล้วเกร็งตัวแน่น ความรู้สึกอุ่นซ่านสาดกระจายเข้ามาในกายผม ก่อนที่เขาจะผละออกไป หยิบผ้าเช็ดตัวผืนนุ่มขึ้นมาพันเอวลวกๆ
วิธีทำฉันก็สอนให้แล้ว...ทีนี้นายก็เอาออกเองแล้วกัน เขาเดินออกจากห้องน้ำไปโดยที่ทิ้งผมซึ่งหมดสภาพไว้ในอ่างอาบน้ำคนเดียว
บ้าเอ้ย....ทั้งๆที่จะออกหมดอยู่แล้ว ใครใช้ให้นายใส่เข้ามาอีกกัน
………….
เสื้อผ้าของผมถูกไอ้คนบ้าคนนั้นมันทำลายยับไปหมดแล้ว สิ่งที่ผมพอจะสวมใส่ได้ในตอนนี้ เห็นจะมีแต่เสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น
แกเอาเอเลนไปไว้ไหน....ทำไมเขาไม่อยู่ในห้อง
ก็อยู่นี่แหละน่า จะไปไหนได้
ทำอะไรเขาอีกรึเปล่า
ผมจะทำอะไรเขาได้....คนโปรดของพี่นี่
ดูเหมือนรีไวจะทะเลาะกับใครอีกแล้ว ผมรีบเดินออกจากห้องน้ำไปดู
พี่นานาบะ!!!!”
เอเลน....
พี่ชายร่างบางเดินมากอดผมเอาไว้
ก็บอกแล้วไงว่าเขาอยู่นี่ พี่คิดว่าผมจะฆ่าเขาหมกส้วมรึไง
ไว้ใจได้ที่ไหน แกมันโรคจิต.....เอเลน ดูสิตัวช้ำไปหมดแล้ว รีไวมันใจร้ายจริงๆ
ของๆผม ผมจะทำยังไงก็ได้
เอเลนเป็นคน....ไม่ใช่ของ!!!!”
ก็นั่นแหละ ยังไงก็ถือว่าเป็นของผมอยู่ดี
ไอ้เด็กเอาแต่ใจ แกนี่มันน่าตบให้คว่ำจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าใช้หน้าตาหากินล่ะก็ฉันจับหน้าแกไปไถเป็นผ้าถูพื้นนานแล้ว
ทำได้ก็ลองสิ สายตากวนๆส่งไปให้พี่ชายอย่างไม่ยี่หระ
อย่าไปสนใจหมามันเห่าเอเลน หายไปไหนมาตั้งสองสามปี ตอนที่รีไวมันบอกว่าติดต่อเราไม่ได้ พี่ตกใจแทบแย่
คือ ผมย้ายบ้านครับ มันค่อนข้างกะทันหัน ก็เลยไม่ได้บอก
เพราะรีไวใช่มั้ย มันทำอะไรให้เราไม่พอใจรึเปล่า
ไม่เกี่ยวกับเขาหรอกครับ....รีไวไม่ได้มีความสำคัญกับชีวิตผมถึงขนาดนั้น รีไวดีดตัวจากโซฟาแล้วพุ่งปราดเข้ามาหาผม พี่ฮีนานาบะช่วยขวางไว้
อย่าเอานิสัยกุ๊ยๆของแกมาใช้กับฉัน ไอ้น้องเวร ให้มันรู้เสียบ้างว่าฉันระดับไหน ถึงจะเหยียบหน้าแกไม่ได้ แต่ก็ยังมีที่อื่นให้ฉันเหยียบแกได้อีกเยอะ รีไวออกท่าทีฮึดฮัดก่อนจะนั่งลงที่โซฟาดังเดิม อย่างน้อยถ้าพี่นานาบะอยู่ เขาก็คงไม่กล้าทำอะไรผม..........ล่ะมั้ง
พี่นานาบะครับ คือ โทรศัพท์ของผม พี่ช่วยเอากลับมาให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากจะติดต่อกับที่ทำงาน จู่ๆก็หายออกมาแบบนี้มันไม่ค่อยดี
หูหนวกไม่ได้ยินที่เอเลนมันพูดรึไง โทรศัพท์มือถือน่ะ....ส่งมา พี่นานาบะฟาดเพี๊ยะเข้าที่ไหล่หนา รีไวแกล้งควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงช้าๆ แล้วยื่นส่งให้
อยากได้ก็ขอร้องฉันดีๆสิ
ฉันไม่อยากพูดกับคนไม่มีเหตุผลอย่างนาย ผมคว้าโทรศัพท์มาจากมือเขา แต่เขากลับนั่งผิวปากเล่นอย่างสบายอารมณ์......มีความสุขจริงนะที่โดนด่าเนี่ย ผมกดหาหมายเลขของลุงผู้จัดการร้าน
นี่มันอะไรกัน....เบอร์โทรศัพท์ของฉันหายไปไหนหมด
ฉันลบเอง ตอบมาหน้านิ่งๆแสนจะกวนส้น......
ทำบ้าอะไร
โทรศัพท์ของนาย มีแค่เบอร์ของฉัน เอาไว้โทรหาฉันคนเดียวก็พอแล้ว.....ไม่ต้องติดต่อใครอีก
แต่ฉันยังต้องทำงาน.....
ไม่ต้องทำแล้ว ฉันโทรไปลาออกให้แล้ว.....นับจากนี้ไป นายจะไปไหนไม่ได้อีก ต้องอยู่ที่นี่เท่านั้น
มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน!!!” ผมขึ้นเสียงใส่เขา
นายเป็นของฉัน เป็นสมบัติของฉัน ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวนาย นายต้องเชื่อฟังฉัน นายไม่มีสิทธิ์จะหนีฉันไปไหนได้อีกแล้วเอเลน.....จำใส่สมองของนายไว้ นับแต่นี้เป็นต้นไป ชีวิตนายเป็นของฉัน
ผัวะ!!!!!
พี่นานาบะชกหน้ารีไวจนเขาล้มคว่ำลง
อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรหน้าแกนะ แกมันต่ำว่ะรีไว ไม่น่าเกิดเป็นน้องฉันเลยจริงๆ อย่าไปสนใจมันเลยเอเลนพี่จะพานายออกไปเอง
อย่าไปนะเอเลน.....ฉันสั่งว่าอย่าไป รีไวที่ทรุดอยู่กับพื้นก้มหน้านิ่ง
อย่าไป....อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวอีก อย่าไปจากฉัน เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตานิ่งเฉย ไร้ซึ่งการขอร้อง อ้อนวอน เขาเพียงแต่มองผมเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาตลอด มองเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรใดๆทั้งนั้น แต่คำพูดที่หลุดออกมากลับสวนทางกับสายตาของเขาอย่างชัดเจน ผมทรุดนั่งลงตรงหน้าเขา มองสบดวงตาสีเข้มคู่นั้นชัดๆ
พูดอีกสิ.....พูดให้ชัดๆ
อย่าหายไปจากฉัน......อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว
รีไวคนนี้เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่แยแสต่อความคิดของใคร ชอบเล่นตลกกับความรู้สึกของคนอื่น พูดถ้อยคำให้คนอื่นหวั่นไหวโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย........
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยโกหกผม ทุกคำพูดที่หลุดออกมาจากปากเขาเชื่อได้ทั้งนั้นเรื่องนี้ผมรู้ดี.......รู้ดียิ่งกว่าใคร
นายมันก็มาไม้นี้ทุกที........
และก็ต้องเป็นผมที่ยอมใจอ่อนเสียทุกครั้งไป

.................................
แกว่าอะไรนะ!!!!”
ผมจะให้เอเลนอยู่ที่นี่
เอเลนจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง เรื่องนี้มันต้องเป็นข่าวแน่
ก็ผมอาศัยอยู่กับเพื่อน.......แปลกตรงไหน
กับเอเลนเนี่ยนะ.....คิดว่าคนอื่นเขาจะเชื่อรึไง ถามจริง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วพวกแกคิดว่าแกสองคนดูเหมือนคนเป็นเพื่อนกันตรงไหน ผมกับรีไวมองหน้ากัน ก่อนที่ผมจะหันไปตอบพี่นานาบะเบาๆ
เราเป็นเพื่อนกันครับ
แน่ใจรึไง?
............... ถ้าจะให้ตอบตามตรงสำหรับผมก็คือไม่อย่างแน่นอน แต่สำหรับรีไวมันไม่มีความหมายอะไรอยู่แล้ว
ถึงยังไงเอเลนก็ต้องอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดมีข่าวขึ้นมาจริงมันก็เป็นหน้าที่ของพี่แล้วที่ต้องไปไกล่เกลี่ย
ทำไมแกชอบโยนขี้ให้ฉันจริงวะ
ใครใช้ให้พี่มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวผมล่ะ
ฉันไม่น่าตาถั่วปั้นแกขึ้นมาเลยว่ะรีไว
เข้าใจก็ดี....กลับไปได้แล้ว
อะไรวะ ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แกกล้าไล่ฉันเหรอ
รู้เรื่องแล้ว จบแล้ว ทุกอย่างตกลงตามนี้ พี่กลับไปซะ ผมจะพักผ่อน พรุ่งนี้มีถ่ายแบบเปิดซิงเกิ้ลใหม่แต่เช้านี่
เดี๋ยวสิวะ แล้วเรื่องของแกกับเอเลน.....ฉันว่ามัน....
กลับไปเถอะ ผมกับเอเลนเสียเหงื่อกันมามากพอแล้ว ผมง่วง จะนอน รีไวรุนหลังพี่นานาบะไปที่หน้าประตูจนสำเร็จ
มันน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้นะรีไว ให้เอเลนไปอยู่ห้องฉันเป็นไง แกจะไปหาเขาเมื่อไหร่ก็ได้ แบบนี้ดีกว่ากันเยอะนี่
พี่นั่นล่ะ ไสหัวกลับห้องไปซะ พอเขี่ยพี่นานาบะออกไปได้ ก็จัดการปิดล็อคประตูห้องไม่สนใจเสียงโหวกเหวกโวยวายของพี่นานาบะอีก ผมกอดอกยืนมองคนที่กำลังเข้าประชิดตัวผมอยู่เงียบๆ เจ้าเด็กโข่งที่มัวแต่ลวนลามซุกไซร้ซอกคอผมอยู่ในตอนนี้
ทำแบบนี้ทำไม?
ทำอะไร รีไวตอบกลับมาในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการสร้างรอยสีกุหลาบอยู่บนซอกคอของผม
ถ่อสังขารออกไล่ล่าตัวฉัน ลากฉันมาที่นี่ บังคับข่มขืนฉัน กักขังฉัน ย่ำยีฉันสารพัด นายทำแบบนี้ไปทำไม
ก็บอกแล้ว ว่านี่คือบทลงโทษสำหรับคนที่ไม่เชื่อฟัง ลิ้นอุ่นๆเลาะเล็มชอนไชเข้าไปในซอกหูบางของผมสลับขบกัดเบาๆ
ฉันทำอะไรผิด
นายหนีฉันไป
ก็บอกแล้วว่าไม่ได้หนี....
นายหนีฉันไป มือใหญ่ค่อยๆปลดเสื้อคลุมอาบน้ำของผมให้มันหล่นลงไปกองกับพื้น
ฉันเป็นอะไรของนายกันแน่
เราเป็นเพื่อนกัน......อย่างที่นายพูด ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนริมฝีปากของผม เรียวลิ้นอุ่นๆชอนไชหยอกเย้าอยู่ภายใน
รีไว....เพื่อนกันไม่ทำแบบนี้หรอกนะ เขากดร่างผมลงบนโซฟาแล้วคร่อมทับไว้
ก็ถือเสียว่าเป็นเซ็กซ์เฟรนด์ก็แล้วกัน
..................................................................TBC.


2 ความคิดเห็น:

  1. กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซ พ่นไฟ รีไววววว๊ เซ็กซ์เฟรนด์บ้านนายเร๊อะ! ตกลงเฮียแกเป็นปีศาจร้ายหรือแค่ไอ้โง่ที่ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองครับบบ //ตายคาตีง

    เอเลนจ๋าที่รัก ขอให้พี่นานาบะคุ้มครองด้วย โฮววววว อิตาเจ้าชายอสูร รู้ตัวเร็วๆล่ะ เดี๋ยวน้องเลนช้ำหมด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พี่ว่าน่าจะเป็นไอ้โง่ที่ไม่รู้หัวใจตัวเองมากกว่า แถมยังเป็นเด็กโข่งหวงของรักอีกนะเออ ^_^

      ลบ